น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า วธ.เชิญชวนคนไทยร่วมพิธีฉลองมรดกโลกภูพระบาท ในโอกาสที่ได้รับประกาศรับรองการขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมอย่างเป็นทางการจากองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ในวันที่ 28 ก.พ. 2568 ณ อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จ.อุดรธานี ซึ่ง วธ.โดยกรมศิลปากร บูรณาการร่วมกับกรมการศาสนา (ศน.) จังหวัดอุดรธานี จัดพิธีฉลองมรดกโลกภูพระบาท โดยจะมีการติดตั้งตราสัญลักษณ์มรดกโลกและใบประกาศรับรองการขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกจากยูเนสโกอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งติดตั้งป้ายรณรงค์ส่งเสริมการท่องเที่ยวมรดกโลกภูพระบาทภายในพื้นที่โบราณสถานอุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ขณะที่ทาง ศน. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องในโอกาสฉลองมรดกโลกภูพระบาท ณ โบราณสถานหอนางอุสา ซึ่งได้นิมนต์ พระราชภาวนาวชิรากร (อินทร์ถวาย สนตุสสโก) แสดงธรรมเทศนาและเจริญจิตสมาธิภาวนา รวมทั้งมีการจัดแสดงนาฏศิลป์และดนตรี อาทิ การแสดงศิลปะพื้นบ้านจากชุมชนไทพวน อ.บ้านผือ จัดแสดงละครตำนานภูพระบาท เรื่องอุสา บารส (ตำนานรักภูพระบาท) และการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุดศึกกุมภกรรณ ตอนสุครีพถอนต้นรัง

รมว.วธ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับการแสดงนาฏศิลป์และดนตรี กรมศิลปากร โดยสำนักการสังคีต ได้ฝึกซ้อมจัดแสดงเตรียมการแสดงเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะละครตำนานภูพระบาท เรื่องอุสา บารส (ตำนานรักภูพระบาท) เป็นเรื่องราวโศกนาฏกรรมความรักของนางอุสาและท้าวบารส ซึ่งถูกกีดกันจากเจ้าเมืองพานและถูกกลั่นแกล้งจากเหล่าชายาของท้าวบารสจนนางอุสาป่วยหนักและสิ้นใจ ด้วยความรักที่มีต่อนาง ท้าวบารสจึงตรอมใจตายตามนางอุสาไป จากชื่อตัวละครในนิทาน ตำนานที่บอกเล่าสืบต่อกันมานี้เอง ได้ถูกผูกโยงเข้ากับโบราณสถานบนภูพระบาทจนเกิดเป็นชื่อเรียกโบราณสถานต่างๆ เช่นทุกวันนี้ ส่วนการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุดศึกกุมภกรรณ ตอน สุครีพถอนต้นรัง เนื้อเรื่องกล่าวถึงพระรามให้สุครีพเป็นนายทัพคุมพลวานรออกรบกับกุมภกรรณ โดยกุมภกรรณได้ทำอุบายลวงให้สุครีพไปถอนต้นรังใหญ่ในทวีปอุดร สุครีพถอนต้นรังใหญ่มาได้แต่ต้องสิ้นกำลัง เมื่อเข้ารบกันจึงถูกกุมภกรรณจับตัวไว้ได้ แต่หนุมานและองคตมาช่วยแก้ไข ทั้งสามพญาวานรได้เข้ารุมทำร้ายกุมภกรรณจนได้รับบาดเจ็บต้องหนีกลับเข้ากรุงลงกา