เรื่องเลือก สว.นี่มีหลายคนบอกว่า “ตบหน้ากันมาก” เพราะมันประหลาด ตั้งแต่คุณสมบัติของกลุ่มอาชีพบางคน ไปจนถึงข่าวที่คนจากคนละแห่งมารวมตัวนอนโรงแรมเดียวกัน ลงคะแนนเรียงหมายเลขกัน  สว.จำนวนมากมาจากบุรีรัมย์ วันเลือก สว.ก็แต่งตัวเสื้อเหลืองเหมือนๆ กัน คือเหมือนกับไม่คิดว่าต้องระวังอะไรเลย

เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับ สว.อยู่ที่ กกต.มากมาย แต่สุดท้าย กกต.ก็รับรองก่อนแล้วสอบต่อ มี สว.บางคนที่มีปัญหาบ้าง แต่กับบางรายที่ถูกร้องนี่ทำเอาคนงงกันหมด ว่า “หลักฐานคาตาว่าเขียนแนะนำตัวเองปลอมขนาดนี้ ทำไมไม่จัดการโดยเร็ว ?” ไปถาม กกต.ก็ได้แต่คำตอบประเภทเราดูอยู่ เราไม่ได้นิ่งนอนใจ กำลังรวบรวมหลักฐาน ให้ความเป็นธรรม ฯลฯ

ที่สุดแล้ว คงมีคนไม่ทนกับ กกต.ที่ตุ๊บป่องๆๆ ไปเรื่อย เลยไปร้องดีเอสไอซะเลย แล้วก็ผ่าง!! ดีเอสไอตรวจสอบพบความผิดปกติ  อาจเข้าข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 77(1)  ความผิดตาม ป.อาญา ม.209 ( ความผิดฐานอั้งยี่ ซ่องโจร ) และความผิดฐานฟอกเงิน สร้างความเสียหายให้ประเทศ

ดีเอสไอรวบรวมหลักฐานได้พอสมควรแล้ว ซึ่งก็ต้องรอดูว่า กกต.จะขอเรื่องกลับมาสอบเองหรือไม่ เนื่องจากเป็นคดีที่เกิดจากการเลือก สว. แต่ขณะเดียวกัน ดีเอสไอก็อ้างว่า คดีนี้มีความผิดที่เกิดขึ้นก่อนการเลือก สว.ด้วย ดังนั้น ก็มีสรุปความผิดอาญาส่งให้อัยการ ซึ่งหากอัยการส่งศาลและศาลประทับรับฟ้อง สว.ก็อาจต้องพักปฏิบัติหน้าที่

ฝั่ง สว.เองเดือดพล่านกับเรื่องนี้มาก “บิ๊กเกรียง” พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 บอกว่า จะขอเปิดอภิปรายทั่วไปกับฝ่ายบริหารที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ในสมัยประชุมนี้ ( ซึ่ง สส.ก็จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 27 ก.พ.) และเข้าชื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถอดถอนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ก็คงไม่พ้น พ.ต.อ.ทวี

นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว.กลุ่มสีน้ำเงิน ยืนยันว่า การได้มาซึ่ง สว.ทำถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เข้าใจว่ามันผิดตรงไหน  ยิ่งข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร เป็นภัยต่อความมั่นคงในราชอาณาจักรตามที่ถูกกล่าวหายิ่งทำให้งงหนัก จะไปเข้าข่ายได้อย่างไร  สว.ทุกคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน การจะเข้าข่ายอั้งยี่  ซ่องโจรจะต้องรู้จักกันมาก่อน

เรื่องร้อนๆ สะเทือนสภาสูงนี้ ว่ากันว่า “เป็นเกมบีบให้ สว.เปลี่ยนข้าง” จากกลุ่มสีน้ำเงินให้แตกตัวออกมาเพื่อช่วยโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ผ่านเมื่อถึงวันที่ได้บรรจุระเบียบวาระ  พรรคเพื่อไทยเองก็คงอยากแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่แน่ใจว่าเรื่องใดเป็นพิเศษ แต่ดูเป็นหนามตำใจมากคือเรื่องการใช้ประมวลจริยธรรม ที่ถึงขั้นทำให้ขาดคุณสมบัติ

เชื่อว่า จากเรื่องนี้มีคำถามว่า กระบวนการทำงานของ กกต.มีปัญหาหรือไม่ เพราะกระบวนการชักช้า และไม่เคยมีการรายงานความคืบหน้าเรื่องผลสอบข้อร้องเรียนฮั้ว สว. จนกระทั่งดีเอสไอออกมาพูด นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.บอกแค่ว่า เรื่องที่ดีเอสไอถามว่า กกต.จะดำเนินการเองหรือไม่ ตอนนี้หนังสือยังอยู่ที่ชั้นสำนักงาน กกต.

ก็ไม่แน่ว่า หากดีเอสไอสอบ แล้วที่สุดกระบวนการได้มาโดยไม่ชอบจริงๆ คราวนี้หลายสายตาจะจับจ้องไปที่ กกต.แทนว่า “ทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์ จนการได้มาซึ่ง สว.มีปัญหาหรือไม่ ? แล้วเหล่านักร้องก็จะพุ่งไป ป.ป.ช.เอาผิด กกต.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 234, 235 ถ้า ป.ป.ช.พบว่ามีความผิด ก็ส่งศาลฎีกาจัดการ

คดีนี้จะเป็นคดีสะเทือนการเมืองครั้งใหญ่หรือไม่  ทุกคนคงอยากเห็นภาพในปีนี้.