จากกรณีโลกโซเชียลได้เผยแพร่คลิปวิดีโอและข้อความ “ท่านใดพอมีเบาะแสบ้างครับ น้องโดนทำร้ายจนตาย ” โดยมีการส่งต่อให้มูลนิธิ เดอะ วอยซ์ ซึ่งในคลิปวิดีโอเป็นภาพชายไม่สวมเสื้อจับสุนัขฟาดกับพื้น จนสุนัขร้องด้วยเสียงโหยหวนเจ็บปวด ต่อมามีหญิงสูงวัยหิ้วขาสุนัขเดินมุ่งหน้าไปทางป่าหญ้า คาดว่าจะนำสุนัขไปทิ้ง ต่อมามูลนิธิเดอะวอย์ กรมปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดนนทบุรี สมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนนทบุรี ลงพื้นที่บ้านเจ้าของสุนัข ในซอยกรุงเทพ-นนท์ 12 ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี เพื่อเร่งช่วยเหลือสุนัขจำนวน 23 ตัวและแมวที่ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ตัว
ล่าสุด วันที่ 24 ก.พ. ที่สภ.เมืองนนทบุรี น.ส.ชลลดา เมฆราตรี หรือเก๋ ประธานผู้ก่อตั้งมูลนิธิเดอะวอยซ์ เสียงจากเรา พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิเดอะวอย์ เดินทางเข้าแจ้งความ กับ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรีพร้อมนำสุนัข 6 ตัว แมว 1 ตัว ที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับบุคคลในคลิปที่ลงมือทำร้ายสัตว์อย่างทารุณ
ภาพเอ็กซเรย์จาก รพ.สัตว์ทองหล่อ ตัวที่ 1 ชื่อฟ้าประทาน หรือโย่ง อายุ 3 ปี พบว่า สะโพกขวาเคยหัก และเชื่อมกันแล้วผิดรูป ทำให้เดินไม่ปกติ นอกจากนี้ยังพบสุนัขตัวอื่นอีก 6 ตัว กระดูกหน้าแตก สะโพกแตก ขาหักหลายจุด ส่วนแมวชื่อริบบิ้น มีบาดแผลถูกยางรัดที่รอบคอและใบหูจนเน่า อาการสาหัสไม่สามารถกินอาหารได้ ร่างกานอ่อนแอมาก นอกจากนี้ยังพบว่าภายในบ้านยังมีแมวอีกจำนวน 8 ตัว

น.ส.ชลลดา กล่าวว่า เคสจับสุนัขทุ่มพื้นเป็นคดีที่สะเทือนใจมาก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ จ.นนทบุรี ได้แจ้งความไปแล้ว ส่วนตนมาแจ้งความเพิ่มเติมเรื่องที่สุนัขและแมวถูกทำร้าย โดยนำหลักฐานผลตรวจร่างกายจากสัตวแพทย์และผู้เชี่ยวชาญมายื่นเพิ่มเติม จากการช่วยเหลือสุนัขและแมวจำนวน 27 ชีวิต ทั้งหมดเคยถูกทำร้ายสาหัส ต้องรอทำการผ่าตัดซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะกลับมาเดินได้ปกติหรือไม่ วันนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าไปรับแมวอีกจำนวน 8 ตัวไปรักษา และได้แจ้งความเพิ่มในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ และทำร้ายถึงแก่ความตาย ซึ่งทั้งครอบครัวถือว่าร่วมกันทำทั้งหมด
น.ส.ชลลดา กล่าวต่อว่า สัตว์ทั้งหมดทางมูลนิธิจะทำการรักษา หลังจากนั้นจะหาบ้านใหม่ให้สัตว์อยู่ ส่วนเรื่องนำสัตว์ส่งบ้านสงเคราะห์จะเป็นทางเลือกสุดท้าย ส่วนคลิปที่สุนัขถูกทุ่มกับพื้น ตนทราบเรื่องมาว่าสุนัขตัวนั้นเสียชีวิตไปแล้ว และกำลังจะนำไปฝัง ซึ่งดูจากสุนัขที่ทางมูลนิธินำไปรักษาไม่มีตัวไหนรูปพรรณตรงกับสุนัขในคลิป เรื่องนี้น่าสลดใจมาก ถ้าเขาเคยเป็นบ้านพักพิงมาก่อนแล้วมาทำเรื่องแบบนี้ มันน่าหดหู่ หากประชาชนท่านใดเห็นการทำร้ายสัตว์ต้องไม่นิ่งดูดาย เพราะสัตว์ไม่สามารถมาแจ้งความได้
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะทำการรวบรวมหลักฐาน และผลแพทย์การตรวจร่างกายสุนัข เพื่อออกหมายเรียกบุคคลที่อยู่ในคลิปมารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป