เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.พ. 68 ที่สตูดิโอ 4 อาคารศูนย์ปฏิบัติการแพร่ภาพออกอากาศฯ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปิดงานเสวนา Global Soft Power Talk : The New Rules of Soft Power โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานคณะที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยและเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เข้าร่วมด้วย

โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวตอนหนึ่งว่า รู้สึกเป็นเกียรติได้มากล่าวปิดงานเสวนา Global Soft Power Talk ซึ่งเป็นเวทีที่เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของไทยในการสร้างอิทธิพลใหม่ระดับโลก ผ่านความคิดสร้างสรรค์ วัฒนธรรม และนวัตกรรม ซอฟต์พาวเวอร์ไม่ใช่แค่อิทธิพลทางวัฒนธรรมและการเมืองอีกต่อไป แต่ยังเป็นตัวขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ประเทศไทยตั้งเป้าเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยจัดตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และมี 13 อุตสาหกรรมหลักขับเคลื่อนความคิดริเริ่มนี้ ได้แก่ ท่องเที่ยว อาหาร ภาพยนตร์ แฟชั่น ให้เป็นโอกาสทางเศรษฐกิจ เป็นเหตุผลที่รัฐบาลได้เปิดตัวนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ยกระดับทักษะใหม่ๆ ให้กับคนไทยมากกว่า 20 ล้านคนภายในปี 2570 ซอฟต์พาวเวอร์ไม่ได้สร้างขึ้นมาอย่างโดดเดี่ยว แต่ต้องการความร่วมมือระหว่างรัฐบาล ภาคธุรกิจ ผู้สร้างสรรค์ นักลงทุน สำหรับพันธมิตรระหว่างประเทศของไทย ประเทศไทยเปิดกว้างสำหรับธุรกิจ

“เราอยากขอเชิญชวน ร่วมกันกำหนดอนาคตของซอฟต์พาวเวอร์ ลงทุนในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ประเทศไทยไม่ได้เสนอผลตอบแทนระยะสั้น แต่เรานำเสนออนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนไปด้วยกัน ขอย้ำว่าซอฟต์พาวเวอร์ของไทย ไม่ใช่เพียงแค่สิ่งที่เรามี แต่เป็นสิ่งที่เราสามารถเป็นได้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีทั้งวัฒนธรรมที่อยู่เคียงคู่การเปลี่ยนแปลง ความสร้างสรรค์ และโอกาสทางเศรษฐกิจ ซึ่งเวลานั้นมาถึงแล้ว ขอให้เราได้ทำงาน สร้างสิ่งใหม่ ๆ ร่วมกัน และเติบโตไปด้วยกัน เพื่อให้ประเทศไทยได้มีที่ยืนในฐานะเป็นผู้นำของโลกด้านซอฟต์พาวเวอร์และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ต่อไป” นายกฯ กล่าว.