นายสรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ผ่านโครงการจัดให้มีบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและเพื่อสังคมในพื้นที่ขาดแคลนหรือยังขาดบริการที่ทั่วถึงเพื่อการสาธารณสุข โดยสนับสนุนจัดให้มีจุดบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในพื้นที่ขาดแคลนหรือขาดบริการที่ทั่วถึง จำนวน 2,917 แห่ง ใน 12 เขตสุขภาพ ทั่วประเทศ วงเงินงบประมาณ 4,000 ล้านบาท ตามแผน ยูโซ่ 3 ซึ่งผ่านความเห็นชอบจาก บอร์ด กสทช. แล้ว คาดว่าจะจัดซื้อจัดจ้าง และทำการติดตั้งอุปกรณ์ได้ภายในปีนี้ โดยใช้ระยะเวลา 1 ปี และจะเริ่มให้บริการได้ในปีที่ 2-6 (2569-2574)
“โครงการนี้ จะนำเทคโนโลยีช่วยยกระดับระบบสาธารณสุขดิจิทัล และบริการทางการแพทย์ทางไกล อำนวยความสะดวกให้แพทย์และเจ้าหน้าที่ส่งข้อมูลทางการแพทย์ได้รวดเร็วขึ้น ลดภาระการเดินทางของผู้ป่วย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง ไม่จำเป็นต้องเดินทางมาหาหมอที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ โรงพยาบาลประจำจังหวัด ช่วยให้คนพื้นที่ห่างไกล ไม่ต้องการเสียเวลาเดินทางเข้าเมือง และได้เข้าถึงดิจิทัลและบริการสาธารณสุข ลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยการใช้เทคโนโลยีสื่อสารที่ทันสมัย”

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โครงการนี้มุ่งขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้เข้าถึง รพ.สต. และศูนย์บริการสาธารณสุข รองรับการให้บริการแพทย์ทางไกล ลดช่องว่างด้านการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลในสังคม โดยการขยายจุดบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุข จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ เทเลเมดิซีนหรือแพทย์ทางไกล ทำให้ประชาชนสามารถเข้ารับคำปรึกษาทางการแพทย์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ชนบทที่ขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์
ด้านนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า โครงการนี้ จะรองรับความต้องการของประชาชนที่ยังไม่มีโอกาสเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและบริการโทรคมนาคมอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล จากที่ปัจจุบันการเข้าถึงเทคโนโลยีถูกมองว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในยุคดิจิทัล สำนักงาน กสทช. จึงเร่งผลักดันโครงการนี้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม พร้อมทำงานร่วมกับภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การขยายโครงข่ายโทรคมนาคม สามารถตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเท่าเทียมด้านดิจิทัล และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกพื้นที่