งานนี้ดีเอสไออ้างว่าได้สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน เชื่อได้ว่ามีขบวนการดังกล่าวจริง เข้าข่ายความผิดอาญาฐานอั้งยี่ และความผิดฐานฟอกเงิน ดีเอสไอจึงประสงค์ที่จะรับดำเนินการสอบสวนในส่วนที่พบการกระทำผิดทางอาญาไว้ดำเนินการ ส่วนความผิดในเรื่องพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่โดยตรงของ กกต จะรับได้ดำเนินการเองหรือไม่ หรือจะให้ดีเอสไอดำเนินการสอบสวนเองทั้งหมด
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา กกต.ทำหนังสือแจ้งกลับไปยังอธิบดีดีเอสไอว่า เรื่องดังกล่าวไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าดีเอสไอได้รับเรื่องไว้พิจารณาแล้วหรือไม่ และยังไม่ได้เสนอเรื่องให้ กกต. พิจารณาตามมาตรา 49 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 โดยล่าสุด “อิทธิพร บุญประคอง” ประธาน กกต.ยอมรับว่าได้รับหนังสือจากดีเอสไอแล้ว และอยู่ระหว่างการประมวลผล
จังหวะเดียวกันบรรดา สว.ที่ยกโขยงไปสัมมนาชิวๆ ริมชายทะเลหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้ “ประธานหมง” มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ต้องควง“บิ๊กเกรียง” พล.อ.เกรียงศักดิ์ ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ตั้งโต๊ะนำทีมแถลงโต้ดีเอสไอทำไม่ถูกต้อง เพราะเรื่องการสอบสวนเป็นหน้าที่ของ กกต. ยืนยันเข้ามาทำหน้าที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ

ขณะที่ “บิ๊กเกรียง”ขู่เอาคืนดีเอสไอ จ่อให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อมูลยื่นฟ้องภาครัฐ เอกชนที่มีเอี่ยวชงเรื่องสอบ สว.สีน้ำเงิน พร้อมเตรียมยื่นซักฟอกถอดถอน “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม ที่กำกับดูแลดีเอสไอ เพราะรับไม่ได้กับข้อกล่าวหาเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร เชื่อว่าเรื่องนี้โยงใยกับเรื่องที่ สว.ยื้อแก้รัฐธรรมนูญ และต้องการทำให้ สว.เสื่อมเสีย
ฟากลูกหาบของ 2 ค่ายพรรคการเมืองใหญ่ คือฝั่งแดงกับน้ำเงิน ต่างออกมาดาหน้าซัดแต่ละฝ่าย โดยซีกน้ำเงิน “คารม พลพรกลาง”รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ออกมาตอกว่า ดีเอสไอไม่มีอำนาจดำเนินการเรื่องนี้ และรมว.ยุติธรรมสุ่มเสียงใช้อำนาจฝ่ายบริหารขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ส่วนฝั่งสีแดง “อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เย้ยว่าถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
ปมร้อนนี้คอการเมืองทั้งหลายต่างดูออกว่าเป็นศึกต่อเนื่องของพรรคร่วมรัฐบาลคือพรรคเพื่อไทยกับภูมิใจไทยที่ขัดแข้งขัดขากันมาตลอด ซึ่งหลายฝ่ายมองข้ามชอตว่าความอลหม่านที่เกิดขึ้นหนักในช่วงนี้คือศึกระหว่าง “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ “ครูใหญ่”เนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ที่คอยลับมีดอยู่ข้างหลังแต่ละฝ่าย และจะทำให้รัฐนาวาของ “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ล่มก่อนถึงฝั่ง วันเลือกตั้งใหม่ในปี 2570 หรือไม่ .