เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2568 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 44 อดีต สส.พรรคก้าวไกลทยอยเข้ารับทราบข้อกล่าวหา “ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง” สืบเนื่องจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคก้าวไกล ว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนได้รับผลกระทบจากคดี 44 อดีต สส.พรรคก้าวไกล และไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก็ไม่ถึงขั้นเป็นจุดเปลี่ยนการเมืองไทยตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันไป รัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีเวลาทำงานอีก 2 ปีครึ่ง เชื่อว่าจะสามารถผลักดันนโยบายเรือธงสำคัญของรัฐบาลได้เป็นผลสำเร็จ
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยและยึดโยงกับประชาชนมากขึ้นนั้น พรรคเพื่อไทยมีจุดยืนชัดเจนว่าไม่แตะ หมวด 1 หมวด 2 และเพื่อให้เกิดแนวปฏิบัติที่ชัดเจน สส.พรรคเพื่อไทยได้ยื่นญัตติถึงประธานรัฐสภาให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับการทำประชามติรวมถึงท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ก็ส่งสัญญาณชัดว่าจะมาสนับสนุนญัตติของพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นเอกภาพ
“ไม่ว่าผลของคดีฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ของ 44 อดีต สส.พรรคก้าวไกล จะออกมาเป็นเช่นไร ประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อไป จะไม่ส่งผลกระทบทั้งต่อสภาและรัฐบาล” นายอนุสรณ์ กล่าว
