สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวาติกันซิตี นครรัฐวาติกัน เมื่อวันที่ 23 ก.พ. ว่าสันตะสำนักออกแถลงการณ์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับพระอาการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ว่าพระอาการประชวรของพระองค์ “ยังคงอยู่ในขั้นน่าวิตก” โดยพระองค์ทรงมีพระอาการ “ระบบทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน” คล้ายหอบหืด ซึ่งต้องใช้ออกซิเจนปริมาณมาก
ขณะที่ผลการตรวจพระโลหิตรายวันพบว่า พระองค์ทรงมีเกล็ดพระโลหิตปริมาณต่ำ ร่วมด้วยภาวะพระโลหิตจาง ส่งผลให้ต้องมีการถ่ายพระโลหิต อย่างไรก็ดี สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสยังทรงมีพระสติสมบูรณ์ และประทับบนรถเข็นเป็นหลัก พร้อมทั้งทรงซาบซึ้งความห่วงใยจากคริสตศาสนิกชน และผู้มีจิตศรัทธาทั่วโลก
Pope Francis' condition remains critical after he suffered a "prolonged" asthmatic respiratory crisis, the Vatican said. He struggled to maintain a sufficient oxygen level breathing on his own, and doctors had to supply oxygen. @MarcusMoore has details. https://t.co/6nUvyw44AU pic.twitter.com/1caRk3Pk8B
— World News Tonight (@ABCWorldNews) February 23, 2025
อนึ่ง สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อให้คณะแพทย์ถวายการรักษาพระอาการประชวรจากโรคหลอดพระวาโย (หลอดลม) อักเสบ หลังพระองค์ทรงมีปัญหากับการหายพระทัย มานานกว่า 1 สัปดาห์
หลังจากนั้น มีการเปิดเผยว่า พระองค์ทรงมีพระอาการประชวรระยะเริ่มต้น ที่พระปัปผาสะ (ปอด) ทั้งสองข้าง ตอนนี้คณะแพทย์กำลังถวายการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ
ด้านคณะแพทย์ของโรงพยาบาลเจเมลลี แถลงครั้งล่าสุด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่าพระอาการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส “ยังไม่พบความเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต” แต่พระอาการประชวรรอบนี้ “ถือว่าวิกฤติ” การถวายการรักษาจึงต้องใช้เวลา
อนึ่ง สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเคยเข้ารับการผ่าตัดเมื่อครั้งยังทรงเป็นวัยรุ่น ซึ่งเป็นการที่แพทย์เฉือนเนื้อบางส่วนของพระปัปผาสะออก.
เครดิตภาพ : AFP