พรรคเพื่อไทยที่เป็นโต้โผรวบรวมเหล่าบรรดาพรรคการเมืองหลายพรรคมาทำงานร่วมกันจนได้จัดตั้งรัฐบาล หลายครั้งที่ความคิดเห็นของพรรคร่วมรัฐบาลมีแนวคิดไม่ตรงกัน และดูเหมือนจะก่อให้เกิดคำถามกับสังคมหลายครั้งว่าพรรคร่วมรัฐบาลกำลังเกิดรอยร้าวภายในรัฐบาลกันเองเสียแล้ว
แต่ใช่ว่ารอยร้าวจะเกิดแค่ภายในพรรคร่วมรัฐบาล พรรคแกนนำอย่างพรรคเพื่อไทยเองก็มีการส่งสัญญาณรอยร้าวมาอย่างต่อเนื่อง ที่เห็นได้ชัดและร้อนไปจนถึงหัวหน้าพรรค อย่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คือการเลือกตั้งนายก อบจ. ที่ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยหวังจะตีตลาดการเมืองท้องถิ่น เพื่อวางรากฐานไปสู่การเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในปี 2570 แต่เพราะความไม่สามัคคีกัน และความขัดแย้งกันภายในพรรค ทำให้หลายจังหวัดที่หวังไว้ว่าจะได้รับชัยชนะกลับพ่ายแพ้ไป
และล่าสุดรอยร้าวของพรรคเพื่อไทยก็ยังไม่จบ เพราะในการประชุม สส.พรรคเมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่ผ่านมา บรรดา สส.ในพรรคเพื่อไทยได้ออกมาสะท้อนปัญหาของประชาชนในพื้นที่ และ สส.หลายคนแสดงความไม่พอใจ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ที่ปล่อยให้สินค้าเกษตร เช่น ข้าว มันสำปะหลัง หอมแดง เป็นต้น มีราคาตกต่ำอย่างมาก โดย สส.หลายคนไม่พอใจที่ นายพิชัย สนใจแต่เดินสายไปต่างประเทศอย่างเดียว โดยไม่สนใจหรือให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการราคาสินค้าภายในประเทศ นอกจากนึ้ รมว.พาณิชย์เชื่อแต่ตัวเลขที่ข้าราชการบอกว่าราคาสินค้าเกษตรดีขึ้น สามารถจำหน่ายได้ ซึ่งสวนทางกับความเป็นจริง จนทำให้ 7 พรรคการเมือง รวมถึงพรรคเพื่อไทยเองก็ได้เสนอญัตติด่วน เพื่อให้สภาพิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาที่เพาะปลูกข้าว เนื่องจากราคาตกต่ำ และโจมตีไปที่มาตรการรองรับของ กระทรวงพาณิชย์ ภายใต้การบริหารของนายพิชัย

ขณะที่เจ้าตัวออกมาระบุว่า เรื่องนี้ได้พูดคุยกับ สส. บ้างบางคนแล้ว พร้อมมองว่า ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณทางการเมือง ส่วนกังวลหรือไม่กับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ และมองเป็นเรื่องของการเมืองหรือไม่ นายพิชัย ตอบว่า ไม่มี ไม่มีคอมเมนต์
หลายคนก็ตั้งข้อสังเกตว่าการมุ่งโจมตี นายพิชัย นั้นจะเป็นการเชื่อมโยงไปถึง เก้าอี้รัฐมนตรี ของนายพิชัยหรือไม่ เพราะช่วงนี้กระแสการปรับ ครม. ก็ดูเหมือนจะวนกลับมาสร้างความสะเทือนขาเก้าอี้อีกครั้ง เพราะไม่แน่ว่าภายหลังศึกซักฟอก การอภิปรายของฝ่ายค้าน อาจจะเป็นหนึ่งในการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีในการปรับ ครม. และถึงแม้นายกรัฐมนตรีจะออกมาปฏิเสธกระแสข่าวการปรับ ครม. แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะไม่เกิดขึ้นจริง เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
ท่าทีของ นายพิชัย เองก็ดูจะแบ่งรับแบ่งสู้ และหากกระทรวงพาณิชย์เป็นหนึ่งในกระทรวงที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในศึกซักฟอกที่จะถึงนี้ นายพิชัย คงต้องเตรียมตัวตอบคำถามให้ดีและมีแนวทางแก้ไขให้ถูกวิธี เพราะหากยังอยากจะรักษาเก้าอี้รัฐมนตรีไว้ไม่ให้ถูกเขย่า และตกไปอยู่ภายใต้มือของคนอื่น คงจะต้องเร่งเดินหน้าแก้ไขปัญหาสินค้าการเกษตรให้เป็นที่พอใจของประชาชน
ดูเหมือนว่าขณะนี้การเมืองภายในของพรรคเพื่อไทย จะส่งผลให้หลายคนต้องระวังตำแหน่งของตัวเองทั้งภายในพรรคและฝ่ายบริหารของรัฐบาล และอย่าลืมว่า สส.คือตัวแทนประชาชน ที่เป็นคะแนนเสียงสำคัญ ก็พร้อมที่จะรุมสับหากทำงานได้ไม่เข้าตาประชาชน จนเขย่าขาเก้าอี้รัฐมนตรี