เรื่องกรมสอบสวนคดีพิเศษ ( ดีเอสไอ ) ตั้งเลขสืบสวนที่ 151/2567 ในคดีฮั้วเลือก สว. เบื้องต้น พิจารณาแล้วเห็นว่าอาจมีการกระทำเข้าข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 77(1) ความผิดตาม ป.อาญา ม.209 ( ความผิดฐานอั้งยี่ ) และความผิดฐานฟอกเงิน ดีเอสไอมีหนังสือสอบถามไปยัง กกต. ว่ามีความผิดทางอาญาใดบ้างที่ กกต. ประสงค์จะรับไว้ดำเนินการสอบสวนเอง อะไรที่จะให้ดีเอสไอสอบสวน แต่ทางนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.บอกว่า “หนังสือยังอยู่ที่ชั้นสำนักงาน ยังไม่มาถึงกรรมการ”

วันอังคารที่ 25 ก.พ.นี้ เวลา 13.30 น. คณะกรรมการคดีพิเศษ ( กคพ.) จะประชุมคดีพิเศษ หรือ Board of Special Case ครั้งที่ 2/2568 มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นประธานกรรมการ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นรองประธานกรรมการ และกรรมการอื่น รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิจากฝ่ายต่างๆ จะประชุมว่า จะรับเรื่องสืบสวนที่ 151/2567 กรณี การคัดเลือก สว. เป็นคดีพิเศษหรือไม่ กคพ.ต้องมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 หรือกึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ กำหนดให้เป็นคดีพิเศษ
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในการสอบเบื้องต้น เรื่องเลือก สว. นี้ กระทบต่อความมั่นคง สร้างความเสียหายให้ประเทศ มีการกระทำในรูปแบบคณะบุคคล องค์กร หากที่ประชุม กคพ. เห็นชอบรับเป็นคดีพิเศษ ก็จะต้องมีการแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษดังกล่าวขึ้นมา 1 ชุด เบื้องต้น คณะพนักงานสืบสวนของดีเอสไอ รวบรวมพยานหลักฐานพอสมควร
แต่หากเลขาธิการ กกต. เห็นว่าเรื่องดังกล่าวมันเกี่ยวกับการเลือกตั้ง สามารถมีหนังสือมาขอให้ดีเอสไอส่งสำนวนให้ กกต. ภายใน 7 วันได้ ดีเอสไอก็อาจต้องทำ เพราะกฎหมายเปิดทางให้ กกต. สามารถเอาไปดำเนินการได้ แม้ว่าดีเอสไอจะทำสำนวนในความผิดอาญาอื่น แต่กฎหมายขององค์กรอิสระค่อนข้างมีความครอบคลุม เมื่อสาเหตุหลักเกิดมาจากการเลือกตั้ง ก็ต้องนำเรื่องเข้าสู่ระบบการตรวจสอบของ กกต. ซึ่งก็มีอำนาจในการส่งฟ้องในคดีอาญาเช่นเดียวกัน

หากดีเอสไอเห็นว่า พฤติการณ์ที่พบการกระทำความผิดทางอาญานั้นเกิดขึ้นก่อนการเลือก สว. ก็จะต้องสรุปสำนวนคดีอาญาส่งให้พนักงานอัยการคดีพิเศษ ส่วนคดีเพิกถอนการเลือก สว. อาจต้องส่งให้ กกต. เพื่อ กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขอให้รอดูรายละเอียดในสำนวนของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ว่าพบความผิดปกติอะไรบ้าง อาทิ คนอยู่ต่างถิ่นต่างที่ของประเทศมารวมกัน มานอนโรงแรมเดียวกันได้อย่างไร เวลาลงคะแนนเสียงก็เลือกเรียงหมายเลขกัน ในทางคณิตศาสตร์คำนวณมันเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องพยานหลักฐานการบันทึกคลิปวิดีโอที่มีพฤติการณ์ถึงการฮั้วกัน มีการประชุมตกลงกัน เป็นต้น
ถ้าหากสำนวนการสอบสวนดำเนินการไปจนถึงกระบวนการชั้นศาล อาจมีสิทธิ์ที่จะทำให้มีผู้ร้องไปร้องขอให้ สว. หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ถ้าอยู่ระหว่างการสืบสวนหรือสอบสวน จะไม่มีผลใดๆ
ด้านการตอบโต้ของ สว. “บิ๊กเกรียง”พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ประกาศจะให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการแจ้งความผู้ที่กล่าวหา ทั้งภาครัฐและเอกชน ฐานทำให้วุฒิสภาเสียหาย ถูกเข้าใจผิด และในส่วนของ กมธ.ของวุฒิสภาบางคณะ จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงถึงอำนาจหน้าที่ และที่มาที่ไปของการมากล่าวหาวุฒิสภาร้ายแรงเรื่องอั้งยี่ซ่องโจร อาชญากรรมและภัยต่อความมั่นคง
และจะเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ( สว.เปิดได้ตามรัฐธรรมนูญ ม. 153 ) กับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ในประเด็นการดำเนินงานของดีเอสไอที่กล่าวหาวุฒิสภามีเหตุผลหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะอภิปรายในสมัยประชุมนี้ นอกจาก พ.ต.อ.ทวี ต้องดูด้วยว่าใครอยู่เบื้องหลัง สว. จะพิจารณาเข้าชื่อเสนอให้ประธานวุฒิสภา เพื่อดำเนินการส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถอดถอนรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง คาดว่าเสียงน่าจะเพียงพอ

“คิดว่าเรื่องนี้โยงใยมาจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ย้ำว่าเรื่องนี้ทำให้วุฒิสภาเสื่อมเสีย ผมทำงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มา 38 ปี แต่พอมาดูข้อกล่าวหาในเรื่องนี้ รับไม่ได้ สว.คนอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน ที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองมา และพวกตนก็ทำตามหลักการของกฎหมายรัฐธรรมนูญ ปี 2560”
นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีต สว. โพสต์เฟซบุ๊กน่าสนใจว่า ปัญหาของ สว. มาจาก กกต.ไม่ทำหน้าที่ รับรองผล เลือกไปแล้วแต่ไม่ตรวจสอบการร้องเรียน ไม่ทำให้กระจ่าง เรื่องก็ยิ่งยุ่ง ยิ่งผ่านไปนาน กกต.จะมีความผิดชัดเจน มัดตัวมากขึ้น การที่ กกต.มีหน้าที่แล้วไม่ทำ ไปๆ มาๆ ดูแล้ว กกต.จะเป็นคนที่ติดคุกเสียเอง กกต.ควรรีบทำอะไรๆในหน้าที่ของตนให้ถูกต้องเป็นธรรม

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้า สว.ไม่ได้ทำอะไรผิด ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว มีการตั้งข้อสังเกตว่าขบวนการจัดตั้งการฮั้ว สว.อาจมีจำนวนผู้สมัครที่อยู่ในขบวนการประมาณ 1,200 คน พรรคเดียวกัน แจกเสื้อสีเดียวกัน อำนวยความสะดวกในการจัดหารถตู้โดยสารส่งผู้สมัคร ทำกันเป็นขบวนการ เรื่องนี้ไม่ใช่เกมการเมืองบั่นทอนวุฒิสภา เพราะมี สว.ที่ไม่ได้เดือดร้อนจากการตรวจสอบครั้งนี้อยู่จำนวนหนึ่ง
ในทางกลับกันถ้าผลการตรวจสอบไม่พบการกระทำความผิด จะ สว.สายสีน้ำเงินหรือสีไหน ก็เดินหน้าปฏิบัติหน้าที่ต่อไป อะไรที่คลุมเครือ ที่สังคมกังขา ก็ทำให้โปร่งใสตรวจสอบได้ ไม่มีอะไรต้องกลัว เมื่อมาเป็น สว.แล้ว ต้องพร้อมรับการตรวจสอบ ต้องพร้อมพิสูจน์ตัวเอง ไม่ใช่ใครแตะอะไรไม่ได้เลย ต้องให้เกียรติและเชื่อมั่นในกระบวนการตรวจสอบ ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ต้องกลัว

นายคารม พลพรกลาง สมาชิกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะนักกฎหมาย กล่าวว่า เจตนารมณ์ในการจัดตั้งดีเอสไอ ต้องการให้มีพนักงานสอนสวนในคดีอาญาที่มีความสลับซับซ้อนมากกว่าคดีอาญาทั่วไป แต่ไม่น่าจะรวมถึงคดีที่เกี่ยวข้องรัฐธรรมนูญ มีคำถามทางกฎหมาย ว่า แม้ รมว.ยุติธรรมจะบอกว่าอาจรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา สามารถทำได้เพราะถือกฎหมายคนละฉบับ แต่เมื่อพิจารณา ถ้า กกต.รับรองแล้ว สว. จะพ้นตำแหน่งต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ม.111 แม้ดีเอสไอจะดำเนินคดีก็อาจทำได้เฉพาะบุคคล
“คดีที่อ้างว่าการเลือกตั้ง สว. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ กกต. ได้รับรองและยืนยันแล้วว่าไม่มีข้อเท็จจริงที่เป็นไปตามคำกล่าวหา หากดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษ และให้มีการดำเนินคดีอาญากับ สว. จะถือว่าเป็นการจงใจใช้อำนาจที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หาก รมว.ยุติธรรม บอกว่า มี สว.ที่เข้าข่ายถูกตรวจสอบ 138 คน ซึ่งเกินครึ่งหนึ่ง ถ้า สว.เหล่านี้ต้องพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ ย่อมแปลได้ว่า ดีเอสไอสามารถล้มการเลือก สว.ได้ ถือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ขัดรัฐธรรมนูญได้หรือไม่และมีผลอย่างไร หรือเป็นเพียงการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญาทั่วไป
วันอังคารที่ 25 กพ.คงลุ้นระทึก ถ้าดีเอสไอทำสำนวนเร็ว ร้องทุกข์กล่าวโทษสว.ถึง 138 คน ศาลรับต้องพักงาน จะทำให้กระบวนการกฎหมายไทยติดล็อคทันที เพราะมี สว.ไม่ถึงจำนวนเสียงที่พึงมี.