เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการดำเนินงานป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ครั้งที่ 1/2568 โดยมี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น., พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น, พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา, พล.ต.ต.กิตติ สกุณี ผบก.ภ.จว.อ่างทอง, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, นายทิพเมษฐ์ สังขวรรณะ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแถลงข่าวจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ 3 ราย ตรวจยึดของกลางยาบ้ากว่า 11 ล้านเม็ด ไอซ์ 2,464 กิโลกรัม
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้า ถือเป็นปัญหาสําคัญของประเทศไทย ส่วนยาไอซ์ที่จับกุมได้จํานวนมากเนื่องจากมีความต้องการสูงในต่างประเทศและใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ทางรัฐบาลจึงได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการป้องกันปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนในและสกัดกั้นการลําเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ โดยมี พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข เป็นประธานอนุกรรมการฯ เพื่อยกระดับในการปราบปราม เนื่องจากมีการใช้พื้นที่ภาคกลางเป็นแหล่งพักยาอยู่บ่อยครั้ง

พล.ต.ท.สุรพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือน พ.ย. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี และสอบสวนขยายผลทราบว่า ยาเสพติดดังกล่าวได้รับมาจากโกดังพักยาเสพติด ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เฝ้าติดตามตรวจสอบบริเวณโกดังดังกล่าวเรื่อยมา
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 68 เวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตรวจสอบพบว่ามีถุงพลาสติกสีดำจำนวนหลายถุงภายในมีสิ่งของบรรจุอยู่ ถูกวางไว้ภายในบริเวณโกดังดังกล่าว เชื่อว่า มียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในถุงพลาสติกสีดำ และมีชาย 4 คน ขี่รถจยย. เข้ามาภายในบริเวณโกดังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและเข้าทำการตรวจค้นภายในโกดัง ผลการตรวจค้น พบยาบ้า จำนวนประมาณ 8,400,000 เม็ด ซุกซ่อนมากับของที่บรรจุรวมกันอยู่ภายในถุงพลาสติกสีดำ เพื่อปิดบังอำพราง จึงทำการจับกุมชายทั้ง 4 ราย ซึ่งพยายามหลบหนี
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า กำลังเตรียมแพ็กยาเสพติดส่งให้แก่ลูกค้า จึงทำการขยายผล และสามารถจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นลูกค้าขณะนำรถยนต์มารอรับยาเสพติดได้อีก 1 ราย รวมทั้งสิ้น 5 ราย ซึ่งมีการแบ่งหน้าที่กันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พร้อมทั้งตรวจยึดทรัพย์สินจากผู้ต้องหา ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือและยานพาหนะ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อไป สำหรับยาเสพติดของกลางทั้งหมดที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ หากมีการนำไปจำหน่ายให้แก่ลูกค้าทั่วไป จะมีมูลค่ารวมสูงถึง 160 ล้านบาท

คดีที่ 2 จับกุมยาเสพติด เครือข่าย “แจ็ค หนองไผ่” พร้อมยาบ้า 3.2 ล้านเม็ด สืบเนื่องจาก กรณีเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 67 เวลาประมาณ 02.30 น. ตำรวจ สภ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ได้พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ เสียหลักตกถนนบริเวณพื้นที่ ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ภายในรถพบยาบ้า ประมาณ 3.2 ล้านเม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวน สภ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย และ กรณีเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 67 เวลาประมาณ 17.30 น. ตำรวจ สภ.วิเศษชัยชาญ และ กก.สส.ภ.จว.อ่างทอง ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 957,980 เม็ด และไอซ์ น้ำหนัก 1,314.3 กรัม บริเวณ ต.สาวร้องไห้ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.วิเศษชัยชาญ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสืบสวนขยายผลจากทั้ง 2 คดีดังกล่าว ทำให้ทราบว่า ยาเสพติดที่พบทั้ง 2 คดีนั้น มีรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้าสีขาว ตู้ทึบ หมายเลขทะเบียน ผค 8917 เพชรบูรณ์ เป็นผู้ขนลำเลียงยาเสพติดมาจากเขตอีสานเหนือมาส่งแพร่กระจายในพื้นที่ จ.ลพบุรี และ จ.อ่างทอง จึงได้ทำการสืบสวนติดตามพฤติกรรมของรถยนต์กระบะตู้ทึบคันดังกล่าว ต่อมาวันที่ 19 ก.พ. 68 เวลาประมาณ 16.30 น. พบรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า สีขาว ตู้ทึบ เชื่อว่ากำลังขนลำเลียงยาเสพติดจาก จ.เพชรบูรณ์ เข้ามายังพื้นที่ จ.ลพบุรี โดยมีรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโมบิลิโอ้ สีขาว ทะเบียน กบ 5079 เพชรบูรณ์ ทำหน้าที่รถนำ จึงได้ร่วมกันติดตามจนกระทั่งพบรถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า สีขาว ตู้ทึบ มาจอดอยู่บริเวณบ้านหลังหนึ่ง อยู่ที่ ต.โคกลำพาน อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี

จากการเข้าตรวจค้น สามารถจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ประกอบด้วย 1. นายฐาปนพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ชาว จ.ลพบุรี ทำหน้าที่เก็บรักษายาเสพติด และนำยาเสพติดจำหน่ายในพื้นที่ จ.ลพบุรี 2. นายเฉลิมพล (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ชาว จ.ลพบุรี ทำหน้าที่เก็บรักษายาเสพติด และนำยาเสพติดจำหน่ายในพื้นที่ จ.ลพบุรี 3. นายเครดิต (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ ทำหน้าที่ลำเลียงยาเสพติดจากเขตอีสานเหนือมาส่งในพื้นที่ จ.ลพบุรี 4. นายจีรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ ทำหน้าที่เป็นรถนำระหว่างขนลำเลียงยาเสพติด พร้อมตรวจยาบ้า ประมาณ 3,200,000 เม็ด, รถยนต์กระบะยี่ห้อมาสด้า สีขาว ตู้ทึบ ทะเบียน ผค 8917 เพชรบูรณ์ (รถขนลำเลียง), รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโมบิลิโอ้ สีขาว ทะเบียน กบ 5079 เพชรบูรณ์ (รถนำ), รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ รุ่น MUX สีเทา หมายเลขทะเบียน 6 กม 5011 กรุงเทพมหานคร, โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง และอายัดเงินในบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี เฉลิมพล (สงวนนามสกุล) จำนวน 521,790.84 บาท นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี ดำเนินคดีกฎหมาย

คดีที่ 3 ตำรวจ สภ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ บช.ปส. สกัดจับรถลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ได้ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 2,464 กิโลกรัม สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 68 เวลาประมาณ 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มหาราช ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. ว่า ได้ติดตามรถต้องสงสัยเป็นรถยนต์ตู้ทึบ จำนวน 2 คัน มีรถนำและรถปิดท้าย ขับตามกันมาตามถนนสายเอเชีย จากทางภาคเหนือมุ่งหน้า จ.ปทุมธานี โดยรถตู้ทึบดังกล่าวต้องสงสัยว่าเป็นรถที่ใช้ในการขนยาเสพติด จึงได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มหาราช ตั้งจุดตรวจจุดสกัดรถดังกล่าว พ.ต.อ.วุฒิชัย สุคนธวิท ผกก.สภ.มหาราช จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่ตู้ยาม ต.02 หมู่ 4 ต.ท่าตอ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา
ต่อมาในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสกัดจับรถยนต์ตู้ทึบ 2 คัน พร้อมรถติดตามอีก 1 คัน ตามข้อมูลที่ได้รับแจ้ง จากการตรวจค้นรถทั้ง 3 คัน พบมีวัตถุเป็นหีบห่อมีสิ่งของบรรจุไว้ ลักษณะคล้ายยาเสพติด อยู่ในรถยนต์ตู้ทึบทั้ง 2 คัน เมื่อแกะออกมาพบวัตถุเกล็ดใสคล้ายยาเสพติด (ไอซ์) ซึ่งจากการตรวจสอบด้วยน้ำยาเคมีพบว่าเป็น ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 2,464 กิโลกรัม พร้อมจับกุมนายพิษณุ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สัญชาติไทย ชาว จ.บุรีรัมย์, นายสุวิทย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี สัญชาติไทย ชาว จ.บุรีรัมย์ และนายหล้า (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลาง รถยนต์กระบะ ตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน 1 ฒศ 6772 กรุงเทพมหานคร, รถยนต์กระบะ ตู้ทึบ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 1ฒว 7280 กรุงเทพมหานคร, รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ เงิน ทะเบียน ฌต 7915 กรุงเทพมหานคร และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์หรือไอซ์) น้ำหนักประมาณ 2,464 กก. สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน รับว่าขนยาเสพติดมาจากทางภาคเหนือ ไปส่งที่ตลาดไท จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ไปดำเนินการตามกฎหมาย

พล.ต.ท.สุรพล กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามที่ นายกรัฐมนตรีได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 67 ว่า รัฐบาลจะเร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนใน 2 เรื่องที่สำคัญ ได้แก่ ยาเสพติด และอาชญากรรมออนไลน์ อย่างเด็ดขาดและครบวงจรนั้น ในส่วนของยาเสพติด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร. และ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร./ประธานอนุกรรมการป้องกัน ปราบปรามการพักคอยยาเสพติดในพื้นที่ตอนในและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ ได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ตอนในรอบ กทม.และปริมณฑล รวม 9 จว. ทำการสืบสวนหาข่าวเพื่อทำลายแหล่งพักคอยและรวบรวมยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านตามแนวตะเข็บชายแดนเข้ามายังพื้นที่ตอนในเพื่อรอเตรียมส่งต่อให้กับลูกค้า หรือเรียกกันว่า “โกดัง”
ทั้งนี้ผลการจับกุมตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 67-ปัจจุบันตํารวจภูธรภาค 1 ได้จับกุมคดียาเสพติดรวม 9,727 คดี ผู้ต้องหา 9,797 คน ตรวจยึดของกลางยาบ้า 35.1 ล้านเม็ด, ไอซ์ 2,870 กิโลกรัม เคตามีน 36 กิโลกรัม และยาอี 273,349 เม็ด.