สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ต้อนรับ พล.ท.คีธ เคลลอกก์ ผู้แทนพิเศษด้านกิจการยูเครนและรัสเซีย ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ที่กรุงเคียฟ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา


เซลเลนสกีกล่าวว่า การพบหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐ “เป็นไปด้วยความสร้างสรรค์” เกี่ยวกับสถานการณ์ในสมรภูมิ การแลกเปลี่ยนเชลยกับรัสเซีย และความต้องการของยูเครนเกี่ยวกับ “หลักประกันด้านความมั่นคง” พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า “ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง” ระหว่างสหรัฐกับยูเครน จะเป็นประโยชน์ให้กับประชาคมโลก


อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ไม่มีการแถลงร่วมกันระหว่างเซเลนสกี กับ พล.ท.เคลลอกก์ ซึ่งค่อนข้างเป็นสถานการณ์ที่ “ผิดธรรมเนียม” เนื่องจากผู้นำยูเครนมักแถลงร่วมกับผู้นำ หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงของต่างประเทศ ที่เดินทางมาเยือนกรุงเคียฟ


ทั้งนี้ การเยือนยูเครนของ พล.ท.เคลลอกก์ เกิดขึ้น ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด ระหว่างเซเลนสกีกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ


ทรัมป์กล่าวว่าการที่เซเลนกีมีท่าที “ไม่พอใจ” ว่าไม่ได้รับเชิญ ให้ร่วมการเจรจากับรัฐบาลวอชิงตันกับรัฐบาลมอสโก ที่ซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา “น่าผิดหวังอย่างมาก” และผู้นำยูเครน “ไม่ใช่ตัวแทนของคนส่วนใหญ่อีกแล้ว” เพราะคะแนนนิยมที่เหลืออยู่เพียง 4%

ต่อมาเซเลนสกีกล่าวว่า “เป็นเรื่องโชคร้าย” ที่ทรัมป์ซึ่งเป็นผู้นำสหรัฐที่ประชาชนเคารพนับถือ กลับอยู่ใน “โลกแห่งข้อมูลที่บิดเบือนของรัสเซีย” การที่ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่า คะแนนนิยมของเขาอยู่ที่เพียง 4% นั้น “มาจากการชี้นำที่คลาดเคลื่อนโดยรัสเซียทั้งสิ้น”


หลังจากนั้น ผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความหยาวเหยียดบนโซเชียลมีเดีย เรียกเซเลนสกีเป็น “ตัวตลก” และ “เผด็จการ” ซึ่งบริหารยูเครนจนพินาศและประชาชนต้องล้มตายเพราะสงคราม “โดยไม่จำเป็น”.

เครดิตภาพ : AFP