เมื่อวันที่ 20 ก.พ. พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า กลางดึกที่ผ่านมา ทีมเฉพาะกิจช่วยเหลือเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำโดย พ.ต.ต.สันติราษฎร์ เงินมั่น หรือ สารวัตรเต้ สว.สส.สภ.บางพลี หัวหน้าชุดปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีประจำจังหวัดสมุทรปราการ ได้นำกำลังเข้าช่วยเหลือนักศึกษาสาว อายุ 22 ปี มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ที่ห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว กรุงเทพฯ ขณะกำลังนั่งวิดีโอคอลคุยกับมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นตำรวจอยู่ ได้กลับคืนสู่อ้อมอกผู้ปกครอง ก่อนจะสูญเงินจำนวนมาก

สืบเนื่องจากพ่อแม่ของนักศึกษาสาวเกรงว่าลูกสาวจะไม่ปลอดภัย ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี ระบุว่า จู่ๆ ลูกสาวหายตัวไปจากหอพักใน ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะถูกลักพาตัวไปเป็นอันตราย หรือตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เนื่องจากลูกสาวได้โทรฯ มาขอให้พ่อแม่โอนเงินเข้าบัญชีผู้ชายคนหนึ่งถึง 350,000 บาท โดยแบ่งโอน 3 ครั้ง 50,000, 200,000 และ 100,000 บาท ตอนนี้ไม่ทราบว่าลูกสาวไปอยู่ที่ไหน ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัว ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพิกัดจนสืบทราบว่าอยู่ในพื้นที่ลาดพร้าว จนติดตามมาพบที่ห้องพักโรงแรมดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ได้ขอหมายค้นและเคาะประตูห้องเรียกอยู่นานแต่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กำลังวิดีโอคอลสั่งไม่ให้เปิดประตู แม้กระทั่งพ่อแม่ของนักศึกษาสาวมาเกลี้ยกล่อมก็ไม่ยอมเปิด เจ้าหน้าที่จึงต้องนำกุญแจสำรองมาไขประตูห้องเข้าไป นักศึกษาสาวมีอาการหวาดกลัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อ้างตัวเป็นตำรวจที่วิดีโอคอลอย่างมาก

ทั้งนี้ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปช่วย มิจฉาชีพยังพูดจาข่มขู่อยู่ โดยอ้างว่านักศึกษาสาวไปเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงิน และให้ไปแสดงตัวที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งโทรฯ มาคุยกับผู้เสียหายต่อเนื่องถึง 7 วัน และทำทีให้คุยกับเจ้าหน้าที่ ปปง. และเจ้าหน้าที่ธุรกรรมบัญชี หลังจากหลอกเด็กสาวจนเงินหมดแล้ว ก็สั่งให้มาเปิดห้องพักโรงแรม และให้หลอกพ่อแม่โอนเงินสร้างเรื่องได้ทุนไปเรียนต่างประเทศ แต่พ่อแม่เห็นผิดปกติ จึงได้เข้าแจ้งความตำรวจ

ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ทิ้งท้ายว่า อยากฝากเตือนประชาชนทั่วไป หากพบพฤติกรรมในลักษณะเช่นนี้ ให้รีบติดต่อทางตำรวจท้องที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนจะตกเป็นเหยื่อ ส่วนขบวนการของเคสนี้ ตำรวจจะได้ประสานตำรวจไซเบอร์ ขยายผลติดตามตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.