กลายเป็นเรื่องที่ทำเอาคุณแม่มือใหม่อย่างสาว “แอริน ยุกตะทัต” หรือ “แอริน-อาฒยา เบญจรงคกุล” แทบทรุด หลังล่าสุดลูกชายหัวแก้วหัวแหวนตัวน้อย “น้องอคิณ” ที่เพิ่งคลอดได้เพียง 3 เดือน ดันต้องเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดด่วน ทำเอาสาวแอรินผู้เป็นแม่ตกใจ ไม่ทันตั้งรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตามที่ข่าวได้นำเสนอไปแล้วนั้น

‘แอริน’ น้ำตาแตก ‘น้องอคิณ’ ไส้เลื่อน ส่งผ่าตัดด่วน บีบหัวอกแม่ใจแทบขาด!

ล่าสุด แอริน ได้เปิดใจครั้งแรกกับโมเมนต์เสียน้ำตา ลูกชายวัย3 เดือนต้องเข้ารับการผ่าตัดครั้งแรกในชีวิต เผยช่วงวิกฤตมาม่าบลู จนตัวเองเป็นซึมเศร้าหลังคลอด แถมเปิดตำนานสายมูตัวเอง จนได้แต่งงานกับสามีสุดหล่อ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 แอรินเผยว่า

“น้องอคิน อายุจะ 5 เดือนค่ะ มีเหตุการณ์ทำให้ลูกต้องเข้าห้องผ่าตัด เพราะน้องเป็นไส้เลื่อนในวัย 3 เดือน ตอนนั้น จริงๆ มันจะเกิดขึ้นกับเด็กที่เกิดไม่ครบกำหนด เกิดก่อนกำหนด แต่ของคินเขาก็ครบทุกอย่าง แต่มันก็เกิดขึ้นได้ทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย ซึ่งน้องมีอาการไข่โต ลูกอัณฑะโตไม่เท่ากัน เขาร้องไห้เวลาเราเปลี่ยนแพมเพิส ซึ่งเราเห็นว่ามันโตขึ้น บวมผิดปกติ ตอนแรกคุณพ่อบอกว่าไม่เป็นไรหรอกยู เดี๋ยวก็หาย กลับเข้าไป ก็ชะล่าใจไปพักนึง พอดีน้องมีผื่น ต้องไปหาคุณหมอผิวหนัง เขาถามว่าคุณแอจองห้องผ่าตัดหรือยัง ต้องผ่าตัดด่วน เราก็ห๊ะ ผ่าตัดอะไร เขาบอกว่านี่คือไส้เลื่อน เดี๋ยวโทรเลย แล้วไปหาคุณหมออีกคน พรุ่งนี้ต้องผ่าเลย น้องต้องเข้าห้องผ่าตัดเลย เหมือนเราไม่ได้เตรียมใจอะไรเลย ซึ่งปัจจัยเสี่ยงมาจากเขาร้องเยอะ ช่วงแรกๆ แอสลีฟเทรนด์เร็วไปนิดนึง แออยากให้เขานอนเอง เขามีการร้องไห้เยอะนิดหน่อย ตะเบ็งเสียงเยอะ แต่เกิดขึ้นได้กับเด็กทุกๆ คนเลยนะคะ ไม่แน่ใจเป็นแค่การสันนิษฐานเอา แล้วตอนที่ปรึกษาคุณสามีว่าลูกเรามีอาการแบบนี้ แล้วสามีบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวหายเอง พอหมอบอกให้ผ่า คือเราโกรธสามี แต่เราก็รู้สึกว่าเขาก็ไม่รู้ โทษใครก็ไม่ได้ช่วยอะไร ก็บอกว่าเห็นมั้ยยู ไอว่าแล้ว เราเป็นแม่ฉันต้องถูก แต่ไม่เป็นไร นอยด์เหมือนกัน แต่จริงๆ ไปผ่าแป๊บเดียวมากๆ เลย แผลนิดเดียว ไม่ได้ใหญ่โตอะไร ซึ่งวินาทีพาลูกเข้าห้องผ่าตัด เราเข้าใจอารมณ์คำว่าใจจะขาดจริงๆ ร้องไห้ นอนไม่หลับ กินไม่ได้ สงสารเขา เด็กเป็นวัยสร้างเขาหายเร็วอยู่แล้ว แต่เราแค่คิดว่าเด็ก 3 เดือน ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ ไม่อยากให้เขาเจ็บป่วย ถ้าเราเจ็บแทนได้ ก็ขอให้เป็นเรา ช็อตดมยาสลบโหดสำหรับเรา เราไม่รู้ว่าเวลาพาทารกเข้าห้องผ่าตัด เราต้องพาไปถึงเตียงผ่าตัดเลย เข้าไปจนวางเขาบนเตียง จนหมอจับเอาที่ดมยาสลบ เราเห็นร่างลูกเราจากร้องไห้แล้วค่อยๆ เงียบไป เป็นช็อตที่ทุกวันนี้แอก็จะร้องไห้อยู่เลย (หัวเราะ) เวลานึกถึงนะคะ แล้วสามี้ขาให้กำลังใจเรา เขาไม่เคยทิ้งเรา เขาจะบีบมือบอกว่าไม่เป็นไรนะ แป๊บเดียว เดี๋ยวลูกก็ออกมาแล้ว เดี๋ยวลูกก็หายแล้ว ผ่าตัดครั้งนี้เขาก็จะไม่มีทางเป็นอีก เขาจะปิดรูทุกอย่างให้ดีไปเลย ตอนนี้ลูกผ่ามาสองเดือน ลูกสบายดีมากๆ ค่ะ เขางัวเงียวันเดียว งอแงนิดหน่อย ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เขาผ่าไส้เลื่อนเด็ก 3 เดือน เขาเปิดแผลนะคะ แต่แผลเล็กมากๆ ตรงขาหนีบ แทบไม่เห็นแผลเลย เป็นไหมละลายด้วย ไม่ได้น่ากลัวอะไร สองวันก็เปิดแผลได้แล้ว สบายมาก หายเร็วมาก ไม่มีอะไร แต่อิแม่ (หัวเราะ) โอ้โห”

ถ้าย้อนกลับไปกว่าจะมีน้องอคินได้ ตอนแรกแอชะล่าใจค่ะ เริ่มจากเก็บไข่ กลายเป็นเขาบอกว่าเก็บไข่ไม่ได้เพราะไม่มีไข่ พอเราอยากจะมีลูก ก็ไปขุนตัวเองใหม่ ทำทุกอย่าง กินฮอร์โมนให้มีไข่ได้ ตอนเก็บไข่อายุ 30 31 พอเริ่มรู้สึกว่าฉันอาจไม่ได้แต่งงานก็ไปเก็บเอาไว้ก่อน พอไปขุนตัวเองใหม่ จนได้มารอบละ 4 ฟอง 5 ฟองบ้าง จนเก็บได้ ก็เริ่มทำตัวอ่อนหลังแต่งงานเลย พอทำตัวอ่อนปุ๊บรอบแรกได้ตัวอ่อน 2 ตัว หมอถามว่าอยากมีลูกกี่คน ก็บอกว่าอยากมีสองคนพี่น้องกัน สองตัวไม่พอมั้ย ต้องขอสัก 5-6 ตัวแล้วกัน ตอนย้ายอาจเกิดเอกซิเดนต์อะไรได้ ไม่แน่ใจ ก็ต้องเก็บกันใหม่ รอบที่ สอง สาม สี่ ไม่ได้สักตัวเลยค่ะ มาได้รอบที่ 5 อีก 2 ตัว ห้าครั้งในเวลาประมาณ 2 ปีค่ะ ซึ่งขั้นตอนพวกนี้ทำให้อารมณ์สวิงสุดๆ ค่ะ เพราะมันฉีดฮอร์โมน เราก็เป็นผีบ้าอยู่แล้วในชีวิตจริง ด้วยพื้นฐานเป็นคนผีบ้าอยู่แล้ว (หัวเราะ) พอฉีดฮอร์โมน อย่างเราเป็นคนขี้โมโหหิวง่าย มันก็คูณไปอีก ยังไม่หิวก็โมโหแล้ว (หัวเราะ) จะไม่เป็นเวย์นั้นอย่างเดียว เป็นคนอ่อนไหว ยิ่งเซนซิทีฟไปใหญ่ คิดเล็กคิดน้อย ใครพูดอะไรก็น้อยใจ คิดเยอะไปหมดค่ะ ถามว่าคุณสามีรับมือกับอารมณ์สวิง 2 ปียังไง เขาก็ไม่เห็นสะทกสะท้านเลยนี่คะ (หัวเราะ) เขาเหมือนให้กำลังใจเรา เราเตือนเขาตลอดว่า ไอขอโทษก่อนนะ ยูรู้ใช่มั้ยว่ามันไม่ใช่ตัวแอนะ มันเป็นฮอร์โมนนะ ข้ออ้าง (หัวเราะ) แต่เขาก็บีบมือ ไม่เป็นไร เต็มที่เลย ให้กำลังใจตลอด เขาน่าจะชินกับอารมณ์แอในทุกๆ วันอยู่แล้ว และมีแว๊บนึงถอดใจ ยากจังเลยสองปีแล้ว ไม่เอาดีกว่า คือ รอบสุดท้ายนี่แหละค่ะ รู้สึกว่ามันเกินเวลาชีวิตเราเยอะ มันเครียดค่ะ มันลุ้นหลายขั้นตอนมาก ไข่จะมีมั้ย ไข่จะโตมั้ย ผสมแล้วจะเป็นตัวอ่อนมั้ย มันเครียดไปหมด การใช้ชีวิตแอก็ต้องเปลี่ยนไป ต้องดูแลตัวเองมากขึ้น ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดี แต่บางครั้งมันเครียดค่ะ ซึ่งบางครั้งความเครียดก็กระทบอะไรหลายๆ อย่างในชีวิตด้วย ก็เลยรู้สึกว่ารอบที่ 5 พอแล้ว อย่างน้อยเรามี 2 ตัว เท่าไหร่เท่านั้น แค่นี้พอแล้วถ้าเป็นเดตสินีที่เราจะได้แค่นี้ก็คือพอ จบ ซึ่งรอบที่ห้าได้ตัวอ่อนมาอีก2 ตัว จนวันที่รู้ว่าใส่ตัวอ่อนแล้วติด ท้อง โมเมนต์นั้นคือ ร้องไห้ฉ่ำๆ เลย เพราะไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้น เราเป็นคนแง่ลบนิดนึง หลายอย่างที่ผ่านมาเราก็ไม่ค่อยหวัง คุณหมอโทรมาบอกว่าท้องก็นั่งร้องไห้ ดีใจมากๆ วันนั้นดูด้วยนะว่าใส่สีอะไรออกจากบ้าน (หัวเราะ) ใส่สีแดง สีมงคล ก็ท้องค่ะ เราเสียน้ำตาหลายขั้นตอน เยอะมากค่ะ ซึ่งช่วงใกล้คลอดวางแผนจะคลอดธรรมชาติ แล้วน้องไม่ยอมตีลังกา ไม่ยอมกลับหัว ตอนแรกจะรอจนน้องกลับ แต่ 38 วีคแล้วน้องก็ไม่กลับ จนคุณหมอบอกว่าถ้าน้ำคร่ำแตก สายสะดือหลุดออกมาอันตราย บ้านแอไม่ได้อยู่ใกล้รพ. เราชอบเลขอยู่แล้ว ก็หาเลขเอาแล้วกัน ผ่าๆ ให้จบไป จะได้รู้ว่ามาวันนี้นะ ก็เลยไม่มีปัญหา ผ่าก็ผ่า

ดูฤกษ์คลอดมาแล้ว ซึ่งเราก็ตกใจ เพราะเป็นวันเสียของคุณพ่อ วันที่คุณพ่อเสีย ทุกปีเราจะเศร้าที่สุด เป็นวันที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตแอแล้วกัน วันที่ 19 ก.ย. เป็นแบดเมมโมรี่สุดๆ แต่ก็เป็นฤกษ์ที่ดีที่สุด เราแค่คิดว่าก็ดี ทำให้วันที่แย่ที่สุดในชีวิตเรา กลายเป็นวันทีดีที่สุดในชีวิตเรา ก็ได้พาลูกไปทำบุญให้คุณตาด้วย และทำบุญให้คุณลูกด้วย แอว่าเป็นอะไรที่ดี อย่าไปคิดว่าอุ้ยตายแล้ววันนี้เป็นวันไม่ดีนะ ซึ่งจักรวาลซ่อมความรู้สึกให้ แอก็คิดแบบนั้น ส่วนในเรื่องมู เรามูหนักมาก เขาให้ทำอะไรก็ทำค่ะ (หัวเราะ) ตอนแรกชื่ออคินได้ไม่กี่วันก่อนคลอดเลย เลือกชื่อนานมาก อคินนี่เป็นคุณเบญ ตอนแรกเราชอบดำน้ำกัน ก็เลยคิดว่าจะให้ชื่อโอเชียน กับอะไรสักอย่าง คล้องจองกัน แล้วก็มีน้องเคน อยากได้ชื่อที่ไปเรียนเมืองนอกแล้วฝรั่งไม่งง อยากได้ชื่อคูลๆ ไม่ชื่อฝรั่งไปเลยเพราะอายค่ะ พ่อก็ตี๋ น้องออกมาฮัลโหล (หัวเราะ) มันเขินค่ะ พ่อเขาไปเสิร์จว่าชื่ออคินล่ะ ชื่อเล่นชื่อคินก็น่ารักดี บวกเลขกันก็ดี เป็นมงคล แปลว่าพระอาทิตย์ ก็เลยชอบ เอาอันนี้เลย”

ส่วนที่เราเป็นมาม่าบลู ซึมเศร้าหลังคลอด คือ เราอยากมีลูกมากๆ เคยเป็นซึมเศร้ามาก่อนด้วย เราคิดว่าเราไม่เป็นหรอก เราอยากมีลูกมาก เราแฮปปี้ วันที่ลูกคลอดออกมา โมเมนต์ที่ลูกคลอดออกมา ดีใจ น้ำตาไหล ได้ยินเสียงเขาร้อง แต่พอเขาเอาลูกมาวางข้างๆ ก็รู้สึกว่าแค่นี้เองเหรอ ตั้งแต่วันนั้นเลย แต่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร อยู่รพ.ก็คิดถึงบ้านมาก กลับไปบ้านก็นั่งตรงไหนก็ไม่สบาย มองหมา มองสามีตัวเอง รู้สึกแปลกหน้าไปหมด มันพูดอะไรไม่ออก เหมือนไม่เป็นตัวเอง เข้าไปแอบร้องไห้ในห้องน้ำ ที่รู้สึกว่าดีขึ้นคือช่วงใกล้ๆ 3 เดือน ซึ่งช่วงแรกไม่ได้สนใจลูกเลย ไม่ได้รู้สึกบอร์นกับเขา รู้สึกว่าเป็นแค่เด็กคนนึง อยู่ตรงนั้นอย่างนั้นเลย แต่พอเริ่มเข้าเต้า มีเวลาอยู่กับเขาได้กอด เวลาผ่านไปนิดนึงก็ค่อยๆ ดีขึ้น เริ่มรักเริ่มหลง พลังแห่งรักกลับมาตูมใหญ่ ก็กังวลไปหมด กลายเป็นวิตกจริต อาจฟังดูอีเดียด แต่คิดว่าถ้าเกิดว่าโลกแตก มีซอมบี้มา หรือเกิดอะไรขึ้น ก็จะคิดตลอดว่าถ้าเกิดสถานการณ์แบบนี้ ใครจะเป็นคนอุ้มลูก ใครจะทำอะไรก่อน ใครจะคว้าหมา เราจะวิ่งออกทางไหน จะจัดการยังไง เรานอนไม่ได้ เหมือนซ้อมหนีไฟ ต้องคว้าอะไรบ้าง มีความสุขแหละ แต่นอนไม่หลับ กลัวตลอด บ้านอยู่ใกล้แอร์พอร์ต จะมีเครื่องบิน บินผ่าน ก็คิดว่าถ้าวันนึงเครื่องบินลงมาที่บ้านเราล่ะ ก็จะเป็นผีบ้า แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้น(หัวเราะ) ซึ่งตอนนี้ติดลูกมาก เห่อลูกมาก เห่อมาก ห่างเขาแป๊บเดียวก็คิดถึง ตอนนี้จะไม่ออกไปไหนถ้าไม่จำเป็น แต่ก่อนคือไม่กลับบ้าน (หัวเราะ) สามีบอกว่าให้ช่วยออกไปบ้าง ไปกินข้าว ไปเจอเพื่อนบ้างไปทำอะไรบ้าง เมื่อก่อนไม่เช้าไม่กลับ ตอนนี้แค่อยู่ชั้นล่างชั้นบนก็คิดถึงแล้ว เด็กเล็กเขาจะมีกลิ่นเบบี๋ที่เราจะรู้สึกโหยหา ส่วนตอนนี้มีวางแผนโรงเรียนให้ลูกแล้ว อยากให้เขาเข้าโรงเรียนแถวบ้าน แต่แถวบ้านคือโรงเรียนเก่าที่แอเคยเรียน อยากวางแผนไปถึงมหาวิทยาลัย อยากให้เขาเรียนสูงๆ เอาให้สุดเลย เราจะพยายามหาเงินมาสนับสนุนเต็มที่ เลือกสะใภ้ไว้ให้แล้ว (หัวเราะ) ล้อเล่นๆ เตรียมรับไหว้ต่ำๆ สะใภ้

สำหรับคุณเบญเห่อลูกมากค่ะ ทุกวันนี้ไม่ถามเลยว่าแอเป็นไงบ้าง จะถามว่าลูกทำอะไรอยู่ วันนี้หายไปไหน ไม่เห็นส่งรูปลูกให้ดูเลย มีอยู่แค่นี้ มีลูกแล้วแฮปปี้ ส่วนคนที่สองต้องมา อยากมีสองคนอยู่แล้ว แต่คนแรกมันเหนื่อยมาก ก็คิดว่าต้องมีอีกคนจริงๆ เหรอ แต่คุณสามีอยากได้ลูกสาว อยากรีบให้เหนื่อยทีเดียวเลย จะได้ซ่อมร่างทีเดียว ซึ่งตอนแรกสามีไม่อยากมีลูก แต่ตอนนี้เดินมาบอกเองว่าเอาหรือยัง? คือเราคุยกันแล้ว แต่ก่อนเขาไม่ได้อยากแต่งงาน ไม่ได้อยากมีอะไรเลย แต่ตอนนี้เป็นคนขอ ตอนแรกเราคุยกันว่ามันเหนื่อยมากเบญ คนเดียวก็โอเคนะ แต่เขาบอกว่าขอร้องเถอะ อยากมีลูกสาวมาก ไปเจอลูกเพื่อน เดมี่ ลูกลีเดีย เขาน่ารัก เขาเห็นลูกเพื่อนๆ แล้วเขาหลง ลูกผู้หญิงอ้อนพ่อ ก็ต้องมีให้เขา แต่ขอพักอีกแป๊บนึง ขอร้อง เหนื่อยมากเลย (หัวเราะ) ถามว่ามูที่ไหนถึงได้สามี แล้วแต่งเลย คือไม่ได้ขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่คบกันมานานเขาไม่ขอสักที เราอยากมีลูก ก็เลยบอกว่าถ้าไม่แต่งเราจะได้ไปหาคนอื่น (หัวเราะ) ของเราแค่ไปปล่อยนกคู่ นกพิราบ จริงๆ เขาไม่ให้ปล่อยหรือเปล่า (หัวเราะ) จำไม่ได้ว่ากี่คู่ แต่ต้องเป็นคู่ ปล่อยปุ๊บอีกเดือนนึงมีพระมาทักเบญว่าต้องแต่งงานเลย ก็ได้ฤกษ์เลย ซึ่งเราจ้างพระอีกทีหรือเปล่า ตายแล้ว แผนซ้อนแผน (หัวเราะ) เขาบอกห้ามหมั้นด้วยค่ะ ถ้าหมั้นจะไม่รอด ต้องแต่งเลย ไม่ต้องมาขอ วิล ยู แมรี่ มี ไม่ได้บน แค่ทำตามพิธีกรรม ให้ไปไหว้ตรงนี้ ไปปล่อยนก เหมือนทำบุญเสริมมากกว่า

ส่วนจะคัมแบ็กงานในวงการหรือยัง คือไม่ได้หายไปไหน จ้างได้ค่ะ ทักมาก่อน ถ้าโอเคก็ไปอยู่แล้ว รับได้ทุกบทบาทค่ะ พรีเซ็นเตอร์ลูกก็ทักมาก่อนค่ะ (หัวเราะ) จริงๆ ไม่ได้อยากห่างหายไปไหน ยังอยู่ในวงการเรื่อยๆ แต่อาจไม่กล้าไง กลัวว่าไม่มาหรือเปล่า ขอแค่ให้บอกเรามาก่อน คุณสามีเขาก็โอเค ตามใจอยู่แล้ว ถ้าเราไปทำงานสามีเขาก็ทำทุกอย่างได้ เขาเก่ง จริงๆ เราจะมีแบ่งบทบาทกัน แอมีพี่เลี้ยงด้วย เบญเขาฝึกตั้งแต่อาบน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อมเขาทำได้ทุกบท สามารถปล่อยเขาไปกับลูกได้เลย ส่วนพาร์ตกลางคืนทุกวันนี้ทุกคืน เบญยังเป็นคนป้อนนมลูกอยู่ เขาบอกว่าเขาอยากทำ ถามว่ามีเวลาสวีตกันมั้ย สวีตกันคืออะไร (หัวเราะ) ตอนนี้เป็นลูกหมดเลย แต่เราก็จุ๊บกันตลอดเวลา รักกันอยู่ค่ะ (หัวเราะ)”

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก aerinyuktadatta