เรียกว่าเข้าสู่ช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานของพรรคสีส้ม เมื่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่อนหนังสือถึง “อดีต 44 สส. พรรคก้าวไกล” ที่วันนี้ส่วนใหญ่คือแกนนำ “พรรคประชาชน (ปชน.) ” ไล่มาตั้งแต่ “หัวหน้าเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน “อ.ไหม” น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล วิโรจน์ ลักขณาอดิศร รังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน เป็นต้น ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาปมเข้าชื่อแก้กฎหมายอาญา มาตรา 112 ขัดต่อจริยธรรมหรือไม่ ภายในเดือน ก.พ.นี้
เป็นช่วงเวลาประจวบเหมาะกับพรรคร่วมฝ่ายค้านตั้งท่ายื่นญัตติเปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยคาดว่าจะมีการยื่นญัตติภายในวันที่ 27 ก.พ.นี้ พร้อมแย้ม “10 รัฐมนตรี” ที่ลุ้นขึ้นเขียงถูกซักฟอกเป็นรายบุคคล ถึงแม้หลายคนในพรรคจะยืนยันว่าไม่ให้ทำให้เสียสมาธิการทำงานการเมือง รวมทั้งศึกซักฟอกที่กำลังจะมีขึ้น แต่ล่าสุด “รังสิมันต์” สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ออกมาปูดกันเองว่า มี สส.อดีตพรรคก้าวไกลบางคน ขอถอนตัว ไม่ร่วมศึกฟอกครั้งนี้ เพราะต้องเตรียมข้อมูลชี้แจง ป.ป.ช.
ขณะที่ “หัวหน้าเท้ง” ณัฐพงษ์ หัวหน้าพรรคประชาชน ปลุกใจลูกพรรคแถลงประกาศสู้คดีเต็มที่ แต่เบื้องต้นขยายเวลาเข้ารับทราบข้อกล่าวหาก่อน เพราะยุ่งอยู่กับการเตรียมข้อมูลศึกซักฟอก แต่ก็จะมี สส.บางรายที่จะเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาก่อนภายในสัปดาห์นี้ เพราะอยากเห็นรายละเอียดว่า ป.ป.ช.จะดำเนินคดีในเรื่องใดบ้าง ทั้งนี้พรรคได้ตั้ง “ทีมทนายชุดใหญ่ไว้ 10 คน” เพื่อช่วยลูกพรรคในการต่อสู้คดีใน ป.ป.ช. ซึ่งเป็นคดีรายบุคคล และคาดไว้ว่าต้องใช้เวลาเป็นปี ๆ ในการพิจารณา พร้อมดักคอว่าขอให้ ป.ป.ช.ใช้มาตรฐานเดียวกับการพิจารณาคดีอื่นๆ
ฟาก ป.ป.ช. เองตอนนี้ก็ประเด็นฮ็อต เมื่อเกิดคลิปหลุดแอบถ่ายของ สุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธาน ป.ป.ช.คนใหม่ เข้าพบ “อ.วันนอร์” วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร หารือกัน จะถูกหวังผลอย่างไรต่อผู้ที่ถูกพาดพิงอีกคนคือ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล เพราะเป็นที่น่าสังเกตว่า ระหว่าง “สุชาติ” และ “บิ๊กโจ๊ก”ยังมีปม ร้องเรียนตรวจสอบกันอยู่
ซึ่งถูกสังคมตั้งข้อกังขาปมคลิปหลุดมีลับลม คมในเรื่องใดหรือไม่ และ“เอฟเฟกต์” จากเรื่องนี้ถูกมองว่า ปล่อยออกมาเพื่อวัตถุประสงค์อะไรบางอย่าง และหวังผลอะไรตามมาหรือไม่??
เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่างประจวบเหมาะกับการเตรียม “ปรับ ครม.” หลังจบศึกการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมพ่วงการเปลี่ยนตัว “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” ให้กลับคืนมาเป็นโควต้าของพรรคเพื่อไทยตามเดิม เนื่องจากเป็นพรรคอันดับ 1ของพรรคร่วมรัฐบาล
อีกทั้งด้วยชนักติดหลังของ “ประธาน ป.ป.ช.” ทำให้ “พรรคประชาชน” แก้เกมเอาคืนทันทีด้วยการล่ารายชื่อ สส.พรรคส้ม เพื่อร่วมกันใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 236 ในการเข้าชื่อให้ได้จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของทั้ง 2 สภา เพื่อยื่นประธานรัฐสภา ถอดถอน ประธาน ป.ป.ช. ซึ่งด้วยจำนวน สส.ของพรรคประชาชนที่เหลืออยู่ 143 เสียง ผนึกกับ “สว.พันธุ์ใหม่” ที่จองเวรองค์กรอิสระมาตั้งแต่เริ่มต้น จึงคาดว่าเสียงน่าจะเพียงพอ เดินเกมนี้ต่อได้ทันที
ก็ต้องจับตาว่าการดิ้นเฮือกสุดท้ายของ“พรรคสีส้ม” จะเอาคืนได้สำเร็จหรือไม่
เพราะหากเดิมพันครั้งนี้แพ้ … การเมืองสนามใหญ่ “พรรคสีส้ม” ต้องคิดหนัก เพราะ “สส.เลือดแท้” หายไปแทบเกลี้ยงกระดานการเมือง.
