สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงการส่งนายสกอตต์ เบสเซนต์ รมว.การคลัง เยือนกรุงเคียฟ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อหารือเกี่ยวกับ “ข้อตกลงทางเศรษฐกิจ” ซึ่งเป็นการที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน “ต้องเปิดทาง” ให้สหรัฐเข้าถึงแหล่งแร่ธาตุหายาก ว่าเบสเซนต์ “ได้รับการปฏิบัติอย่างหยาบคาย” จากการที่เซเลนสกี “ไม่ลงนาม”

ทรัมป์กล่าวด้วยว่า เซเลนสกี “ง่วงเหงาหาวนอน” และไม่ยอมพบกับเบสเซนต์ ทั้งที่รัฐมนตรีของสหรัฐ อดทนนั่งรถไฟนานหลายชั่วโมง ท่ามกลางสถานการณ์ที่อันตราย แต่ต้องกลับมามือเปล่า

อย่างไรก็ตาม เซเลนสกีพบหารือกับ รมว.การคลังสหรัฐ ที่ทำเนียบในกรุงเคียฟ ขณะที่เดอะ วอชิงตัน โพสต์ รายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าว ว่ารัฐบาลเคียฟมีโอกาสเห็นเอกสารล่วงหน้า เพียง 4 ชั่วโมง ก่อนเบสเซนต์เดินทางมาถึง


ก่อนหน้าการพูดถึงเรื่องนี้ ทรัมป์เรียกเซเลนสกีเป็นทั้ง “ตัวตลกที่มีความสามารถปานกลาง” และ “เป็นเผด็จการ” ซึ่งไม่ยอมจัดการเลือกตั้ง นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า เซเลนสกีควรพ้นจากตำแหน่งโดยเร็ว มิเช่นนั้นจะไม่เหลือยูเครนให้ปกครองอีก


ด้านแหล่งข่าวในทำเนียบขาวกล่าวว่า ท่าทีดังกล่าวของทรัมป์ “เป็นการตอบโต้” ที่ผู้นำยูเครนวิจารณ์ทรัมป์ ว่า “เป็นเรื่องโชคร้าย” ที่ผู้นำซึ่งชาวอเมริกันเคารพนับถือ กลับอยู่ใน “โลกแห่งข้อมูลที่บิดเบือนของรัสเซีย” การที่ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่า คะแนนนิยมของเขาอยู่ที่เพียง 4% นั้น “มาจากการชี้นำที่คลาดเคลื่อนโดยรัสเซียทั้งสิ้น”.

เครดิตภาพ : AFP