เมื่อวันที่ 20 ก.พ. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) กล่าวถึงกรณี น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ออกมาเปิดเผยข้อมูลการใช้งบประมาณของ สปส.ในด้านต่างๆ ที่มีข้อสงสัย รวมถึงการนำไปจัดสรรสิทธิประโยชน์ในการรักษาพยาบาลให้กับผู้ประกันตนในอัตราที่น้อยมากเมื่อเทียบกับสิทธิบัตรทอง ทั้งๆ ที่ผู้ประกันตนถูกบังคับให้จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนทุกเดือนว่า ในส่วนของการจัดชุดสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตนนั้น เราดูแล 7 กรณี คือ คลอดบุตร-สงเคราะห์บุตร-เจ็บป่วย-พิการ-ว่างงาน-เกษียณ-เสียชีวิต ดังนั้นจะเอาอย่างใดอย่างหนึ่งมาพูดแค่กรณีเดียวคงไม่ถูกต้องทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในข้อแนะนำและข้อเสนอแนะของท่าน สส. ซึ่งตนยินดีน้อมรับและปรับปรุงให้ดีขึ้น
“เรื่องสิทธิประโยชน์ในการรักษานั้น ถ้าปีหนึ่งสมมุติว่าเราเก็บเงินสมทบได้ประมาณ 1 แสนล้านบาท เราจ่ายประมาณ 7 หมื่นล้านบาทเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาล ซึ่งถือว่าครอบคลุม และกำลังจะมีการประกาศเพิ่มสิทธิประโยชน์อีก ไม่ว่าจะเป็นการรักษาโรคมะเร็งอันลิมิต และที่ไหนก็ได้ โดย สปส.เข้าไปดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทุก รพ.ที่รับดูแลผู้ประกันตน และคิดว่าโรคทุกโรคที่ สปส.สามารถเข้าไปดูแลได้ก็กราบเรียนว่า เรื่องเหล่านี้เรายินดีที่จะทำให้ดีขึ้น รวมถึงเรื่องค่าทำฟันด้วย ซึ่งบอร์ดแพทย์มีมติให้ผ่านแล้ว อยู่ในขั้นตอนของฝ่ายกฎหมายตรวจสอบความถูกต้องก่อนส่งให้ รมว.แรงงานลงนาม และประกาศในราชกิจจานุเบกษาก็จะมีผลบังคับใช้ โดยยืนยันว่า สิทธิประโยชน์ที่กำลังจะเพิ่มให้นี้ ผ่านการศึกษาและพัฒนามาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาทำหลังมีข่าวในช่วงนี้” นายบุญสงค์ กล่าว
นายบุญสงค์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการทำ Web App เพื่อบริหารจัดการหลังบ้านของ สปส. อยู่ภายใต้ระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐที่กำหนดไว้ แต่ไม่สามารถทราบได้ว่ามีการฮั้วหรือไม่ ซึ่งขณะนี้การทำ Web App กำลังให้ทาง สปส. ดำเนินการและจะแจ้งออกมาให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง ส่วนการส่งงานล่าช้านั้น โดยข้อระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ กรณีที่ส่งงานช้าต้องมีค่าปรับอยู่แล้วในสัดส่วนเงินที่ต่างกัน ซึ่ง สปส. ก็ได้ดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด หากกระทำโดยมิชอบ ตนและเจ้าหน้าที่จะต้องถูกตรวจสอบโดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ จึงยืนยันได้ว่าดำเนินการตามระเบียบแน่นอน แต่ทั้งนี้อาจจะมีเงื่อนไขในช่วงโควิด-19
“ขอยืนยันว่า ในการจัดซื้อจัดจ้าง หรืองบประมาณรายจ่ายของสำนักงานฯ ทุกกระบวนการดำเนินตามระเบียบกฎหมายที่กำหนดงบประมาณที่จ่ายออกไปได้ผ่านการอนุมัติจากคณะทำงานฯ คณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ รวมถึงบอร์ดประกันสังคม ในการพิจารณาอนุมัติ และยืนยันพร้อมที่จะให้ตรวจสอบได้ ที่สำคัญ ทุกอย่าง ทุกเม็ดเงิน ทุกงบประมาณทุกบาททุกสตางค์ใช้จ่ายตามระเบียบ” นายบุญสงค์ กล่าว
นายบุญสงค์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของงบประมาณที่เพิ่มขึ้น 66% ในช่วงเวลา 4 ปี อาจเพิ่มในช่วงเปลี่ยนผ่านเว็บแอป 850 ล้านบาท จากเดิมที่เราใช้ระบบทำด้วยมือ (Manual system) ต้องใช้การวอล์กอินเข้ามา เราต้องเปลี่ยนให้ผู้ประกันตนสะดวกขึ้น จ่าย/โอนเงินผ่านธนาคารได้เลย และเปลี่ยนจากระบบ Sapiens เป็นระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้มานานและต้องเช่าทุกปี มาเป็นระบบที่ สปส. จัดทำเอง รวมถึงส่วนหนึ่งที่มียอดผู้ป่วยโรค ICD เพิ่มขึ้น และช่วงโควิด-19 ที่เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีการตั้งข้อสังเกตกำหนดการดูงานต่างประเทศอังกฤษ-สกอตแลนด์ 1 สัปดาห์ของบอร์ดแพทย์ ประกันสังคมและผู้บริหาร แต่ไปดูงานเพียงแค่ 2 วัน นายบุญสงค์ กล่าวว่า อาจเป็นตารางร่างไว้เบื้องต้น เพื่อเสนอให้บอร์ดประกันสังคมเห็นชอบ เวลาไปดูจริง จะเป็นอีกตารางหนึ่ง แต่ตนเชื่อมั่นว่าทุกครั้งที่ไปดูงานต่างประเทศ มีการดูงาน เวลาพักรับประทานอาหาร เวลาที่จะพักผ่อนก็ต่างกัน ขึ้นอยู่กับสถานที่และหน่วยงานที่เราจะไปดู ทั้งนี้ ทุกครั้งที่เดินทางไปดูงานกลับมา จะต้องเขียนรายงานและปฏิบัติ แต่ขอให้สปส. ออกมาชี้แจงเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง
“เราไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและผม รวมถึงเจ้าหน้าที่พร้อมชี้แจง ผมทำงานด้วยเป้าหมายเพื่อประโยชน์ของผู้ประกันตน เราไม่ได้มีประโยชน์อื่นใดเข้ามาแอบแฝงและทำภายใต้กฎหมายกำหนด หากจะมีการตรวจสอบใหม่อีกครั้ง ก็พร้อมที่จะชี้แจงรายละเอียด” นายบุญสงค์ กล่าว