เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่รัฐภา นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ อดีต สส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า วันนี้ตนได้เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว และจากกรณีที่มีการให้สัมภาษณ์ว่าควรเรียก 44 สส. ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งข้อกล่าวหาว่าเป็น 43+1 หลายคนคงทราบดีว่าเป็นตนที่ไม่ได้ไปต่อกับพรรคก้าวไกล เนื่องจากตนเป็นหนึ่งในผู้ที่พรรคก้าวไกล ส่งผู้ต้องหาคดี 112 เป็นตัวแทนลงสมัครเลือกตั้ง สส.กทม. ซึ่งเขาคงคิดว่าเหมาะสมกว่าตน เท่ากับตนเป็นหนึ่งใน 44 คน ที่ลงชื่อจริง แต่ไม่ได้กระทำการอย่างอื่นร่วมกับพรรคก้าวไกลต่อหลังจากนั้น
นายสมเกียรติ กล่าวว่า นอกจากนี้ ตนก็ไม่ได้ไปเป็นพยานตามที่มีสื่อบางสำนักรายงานข่าวไป เนื่องจากในเอกสารที่ส่งมาให้ตนรับทราบข้อกล่าวหานั้น มีการแจ้งข้อกล่าวหาหลายข้อ และมีการให้คำแนะนำว่าให้ชี้แจงไปตามข้อเท็จจริง เพราะบางครั้งเขาอาจจะกล่าวหาไปก่อนแล้วค่อยเข้าไปชี้แจงว่าเป็นไปตามที่เขากล่าวหาหรือไม่ หรือเราสามารถไปขอหลักฐานที่เขามีได้ ซึ่งเขาสามารถให้เราดูหลักฐานได้มากน้อยแค่ไหน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างไรก็ตามขณะนี้ ยังไม่มีการเสนออะไรให้ตนเข้าไปเป็นพยาน และคิดว่าไม่เกิน 30 วัน ตนสามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้ทั้งหมด
เมื่อถามว่าวันนี้ที่เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา มี สส. จากพรรคประชาชนไปด้วยหรือไม่ นายสมเกียรติ กล่าวว่า ตนเห็นหนังสือจากบางคน ลงวันที่เดียวกับตน ซึ่งคิดว่าน่าจะไป แต่เมื่อไปแล้วก็ไม่เจอใคร ถามเจ้าหน้าที่ เขาก็บอกว่าตอนที่เขาอยู่ก็ยังไม่เห็นมีใครไป
เมื่อถามถึงกรณีที่นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.พรรคก้าวไกล ระบุว่ามี 4 คน ไปให้การขอเป็นพยานกับ ป.ป.ช. นายสมเกียรติ กล่าวว่า ต้องแยกก่อน เพราะ 44 คน คือคนที่ถูกกล่าวหา เป็นคนที่ลงชื่อ แต่คนที่ไปเป็นพยานรอบแรก เขาไปเป็นพยานในฐานะพยานแวดล้อมที่ไม่ได้ลงชื่อ และมั่นใจว่าใน 44 คน ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเหมือนตน
เมื่อถามถึงแนวทางในการแก้ข้อกล่าวหา นายสมเกียรติ กล่าวว่า ต้องส่งพยานหลักฐานไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งก็ยอมรับว่าเราลงชื่อจริง แต่พฤติการณ์หรืออะไรอื่นๆ ก็ให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง เพราะตนไม่เคยมีการเคลื่อนไหวอะไรเกี่ยวกับมาตรา 112 เลย ส่วนจะมีการคุยกับ สส. ในพรรคประชาชนหรือไม่นั้น เมื่อปีที่แล้วมี สส. โทรฯ มาหาตน และถามว่าจะใช้ทนายร่วมกับพรรคหรือไม่ ซึ่งตนได้ปฏิเสธไป เพราะไม่อยากมีส่วนร่วม เนื่องจากยังเคืองอยู่ ซึ่งนอกจากไม่รับตนแล้ว ตนยังถูกกล่าวหาจากพรรคว่าเป็นงูเห่าด้วย แต่หลังจากที่มีข่าวมา 3-4 วัน ตนโทรฯ กลับไปหา สส. คนนั้น เขาไม่รับสายตนแล้ว ทั้งนี้สำหรับคดีที่ตนเคยฟ้องคนในพรรค ที่กล่าวหาว่าตนเป็นงูเห่านั้น ขณะนี้ศาลได้จำหน่ายคดีออกไปแล้ว เนื่องจากเขาชดใช้ค่าเสียหาย
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนอีกคดีที่ตนได้ฟ้องร้องบุคคลในพรรคก้าวไกล ที่มีการหาเสียง จ.ราชบุรี และระบุว่ามีคนเข้าไปให้ข้อมูลกับ ป.ป.ช. และไปใส่อะไรที่ไม่เป็นความจริงไว้ให้เพื่อน มีการเสนอหน้าไปโดยที่เขาไม่ได้เรียก โดยอาจทำให้มีการทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นตน ซึ่งมีพยานหลักฐานว่าที่เขาสื่อ ถึงแม้จะไม่เอ่ยชื่อ และศาลจะมีการพิจารณาในเดือน เม.ย. ว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่ โดยบุคคลที่ตนฟ้องมี 2 คน คือนางอมรัตน์ และนายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน
เมื่อถามว่า การที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นงูเห่านั้น มองว่าถูกกลั่นแกล้งใช่หรือไม่ นายสมเกียรติ กล่าวว่า “ก็แน่นอน หากไม่กลั่นแกล้ง ทำไมไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์”.