เมื่อวันที่ 19 ก.พ. พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 128 บ้านศรีวิไล หมู่ 5 ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.นราศักดิ์ นนทะบุตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุพบศพ น.ส.สุกัญญา มีสัตย์ธรรม หรือเบียร์ อายุ 33 ปี มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดตามร่างกายหลายแห่งรวม 8 แผล โดยเฉพาะที่บริเวณคอเป็นแผลฉกรรจ์ เลือดไหลนองเต็มพื้น ส่วนคนร้ายคือ นายฤทธิพร ปะนัดเท หรือท็อป อายุ 32 ปี สามีผู้เสียชีวิต หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
จากการสอบถามญาติที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า น.ส.เบียร์ และนายท็อป เป็นสามีภรรยากัน มีลูกสาวอายุ 10 ขวบ 1 คน เมื่อ 3 เดือนก่อนทั้งคู่ได้ทะเลาะกันและแยกกันอยู่ นายท็อป ได้กลับไปอยู่บ้านที่ ต.บ้านตาด แต่ก็ยังตามมาง้อขอคืนดีภรรยาอยู่ประจำ กระทั่งทะเลาะกันถึงขั้นมีการแจ้งความไว้ที่โรงพัก เนื่องจากนายท็อป มีการข่มขู่เอาชีวิต น.ส.เบียร์ และครอบครัว จนกระทั่งวันนี้ได้กลับมาก่อเหตุแทง น.ส.เบียร์ จนเสียชีวิต ซึ่งมีภาพวงจรปิดในหมู่บ้านสามารถบันทึกภาพนายท็อป ขี่รถจักรยานยนต์ เข้ามาในหมู่บ้านและขี่หลบหนีหลังก่อเหตุ
เบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุขณะได้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักตัวเอง ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 5 กม. จึงเข้าทำการจับกุมได้พร้อมของกลางอาวุธมีด โดยแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางเสียงด่าและสาปแช่งจากชาวบ้าน โดยเฉพาะแม่ผู้ตายตะโกนด้วยความคับแค้นใจว่า “ฆ่าลูกกูทำไม ทำไมทำกันได้ขนาดนี้ อยากให้ประหารชีวิต ให้ตายตกตามกัน ศพแลกศพไม่เอาความอะไรเลย”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างควบคุมนายท็อปไปทำแผน นายท็อปมีสีหน้าเศร้าเล็กน้อย นิ่งเงียบ ไม่ยอมตอบคำถามนักข่าวแต่อย่างใด เบื้องต้นทราบว่านายท็อปเคยทำงานเป็นคนขับรถส่งของ แต่ออกจากงานได้ประมาณ 3–4 เดือน แล้วออกมาเผาถ่านกับครอบครัวตัวเองที่บ้าน นายท็อป มีพฤติกรรมเสพยาเสพติดและติดการพนัน น.ส.เบียร์จึงขอเลิก เพราะทนพฤติกรรมไม่ได้ หลังจากนั้นก็ขอหย่าขาดกันมาตลอด แต่นายท็อปไม่ยอม วันนี้ก็ได้นัดหมายกันตกลงเรื่องหย่ากันอีก นายท็อปจึงโมโหและเตรียมมีดมาก่อเหตุ.