สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวานนี้ (18 ก.พ. 2568) กรณีของเด็กชายวัย 14 ปีชาวบราซิล เสียชีวิตจากการฉีดสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย โดยคาดว่าเป็นการกระทำตามคำท้าทายจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
ดาวิ นูเนส โมเรรา หนุ่มน้อยวัย 14 ปี มีอาการอาเจียนและเดินโซเซ หลังจากเขาผสมซากผีเสื้อในน้ำ แล้วฉีดของเหลวดังกล่าวเข้าไปที่ขาของเขา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ในตอนแรก หนุ่มวัยรุ่นเพียงบอกพ่อแม่ของเขาว่า เขาเผลอทำตัวเองเจ็บระหว่างเล่น แต่หลังจากนั้นก็ยอมสารภาพความจริง เมื่ออาการป่วยของเขาเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ และจำต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในเมืองปลานาลโต ประเทศบราซิล
รายงานข่าวระบุว่า พ่อของเขาพบเข็มฉีดยาที่ลูกชายใช้ ซ่อนอยู่ใต้หมอนของลูก
ต่อมา ดาวิ ถูกย้ายตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลอีกแห่งในเมืองวิโตเรีย เด กอนกิสตา รัฐบาเยีย ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของรัฐบาเอีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่เขาก็เสียชีวิตจากอาการป่วยในที่สุด

หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในบราซิลหลายฉบับ พาดหัวข่าวอย่างครึกโครมว่า การเสียชีวิตอย่างลึกลับของดาวิ เชื่อมโยงกับสารพิษที่อาจพบในผีเสื้อ ซึ่งทำให้อวัยวะภายในร่างกายของเขาหยุดทำงานขณะที่เขาอยู่ในอาการช็อก เนื่องจากติดเชื้อ
ด้านตำรวจท้องที่กำลังรอผลการชันสูตรพลิกศพฉบับสมบูรณ์ ก่อนที่จะประกาศสาเหตุการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ รายงานข่าวระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่เด็กชายอาจเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมรับคำท้าตามกระแสโซเชียลมีเดียที่อันตราย จนเป็นเหตุให้เขาเสียชีวิต
“ผลการชันสูตรพลิกศพจะช่วยให้ความกระจ่างถึงสาเหตุการเสียชีวิตได้” โฆษกของตำรวจพลเรือนในเมืองวิโตเรียดากอนกิสตา ซึ่งรับหน้าที่สอบสวนการเสียชีวิตของดาวิกล่าว
มาร์เซโล ดูอาร์เต ผู้เชี่ยวชาญด้านผีเสื้อและผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์สัตววิทยาของมหาวิทยาลัยเซาเปาโล กล่าวว่า ปัจจุบัน ยังไม่มีการศึกษาเรื่องพิษของผีเสื้อที่ส่งผลต่อมนุษย์อย่างเพียงพอ

“ผีเสื้อมีลักษณะทางชีววิทยาที่ซับซ้อน และของเหลวในร่างกายของพวกมัน ยังไม่ได้รับการศึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วนในแง่ของความเป็นพิษต่อมนุษย์” ดูอาร์เต กล่าว
ข้อมูลที่มีอยู่ระบุว่า ต้นไฟเดือนห้า หรือมิลค์วีด ที่หนอนผีเสื้อพันธุ์จักรพรรดิชอบกินเป็นอาหาร จะเป็นวัชพืชมีพิษและทำให้หนอนผีเสื้อมีการสะสมพิษในร่างกาย แต่ทางการก็ยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่า วัยรุ่นผู้โชคร้ายใช้ซากผีเสื้อชนิดใดผสมน้ำแล้วฉีดเข้าไปในร่างกาย
ที่มา : nypost.com
เครดิตภาพ : SIP_Vienna from Pixabay