เมื่อวันที่ 19 ก.พ. นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ให้ความรู้ด้านสุขภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า เคยได้ยินคำว่า “โปรตีนรั่ว” กันไหม หลายคนอาจจะไม่คุ้น และฟังดูเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่จริงๆ แล้วมันอาจเป็นสัญญาณเตือนว่า ไตกำลังมีปัญหา วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังว่าทำไมโปรตีนรั่วถึงสำคัญ แล้วเราจะป้องกันมันได้ยังไง
1. โปรตีนรั่วไม่ใช่เรื่องเล็ก อาจเป็นสัญญาณของโรคไต
ปกติแล้ว ไตทำหน้าที่กรองของเสียและรักษาสมดุลของร่างกาย รวมถึงกักเก็บโปรตีนไว้ในเลือด ถ้ามีโปรตีนรั่วออกมากับปัสสาวะ หมายความว่า ระบบกรองของไตอาจมีปัญหา และอาจเป็นสัญญาณของโรคต่างๆ เช่น
- โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease – CKD) ไตเสื่อมลงอย่างช้าๆ จนทำงานไม่ได้
- โรคเบาหวาน ระดับน้ำตาลที่สูงเป็นเวลานานทำให้ไตเสื่อมและเกิดโปรตีนรั่ว
- ความดันโลหิตสูง ทำให้ไตต้องทำงานหนักและเสื่อมเร็วขึ้น
- ภาวะอักเสบของไต (Glomerulonephritis) ซึ่งทำให้โครงสร้างไตเสียหาย
ถ้าไม่รีบตรวจและรักษา โปรตีนรั่วอาจนำไปสู่ภาวะไตวายได้ เพราะฉะนั้นเราควรให้ความสำคัญและเข้ารับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอนะครับ
2. เช็กอาการโปรตีนรั่ว
หนึ่งในปัญหาของโปรตีนรั่วคือ มักไม่มีอาการในระยะแรก หลายคนอาจมีภาวะนี้โดยไม่รู้ตัว แต่ถ้าเป็นมากขึ้น อาจสังเกตได้จากอาการเหล่านี้
- ปัสสาวะเป็นฟองมากกว่าปกติ เกิดจากโปรตีนที่รั่วออกมา ทำให้ปัสสาวะมีฟองเยอะและคงอยู่เป็นเวลานาน
- ขาบวม เท้าบวม เพราะโปรตีนในเลือดลดลง ทำให้แรงดันในหลอดเลือดเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้มีของเหลวรั่วออกไปสะสมที่เท้าและขา
- อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เพราะร่างกายสูญเสียโปรตีนที่จำเป็นต่อกระบวนการทำงานต่างๆ
ถ้ามีอาการเหล่านี้ ควรรีบหาหมอและตรวจสุขภาพไตโดยด่วน อย่าปล่อยให้เป็นเรื้อรังจนรักษายาก
3. ใครบ้างที่เสี่ยงต่อโปรตีนรั่ว?
บางคนมีความเสี่ยงต่อภาวะโปรตีนรั่วมากกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มต่อไปนี้
ผู้ป่วยเบาหวาน น้ำตาลในเลือดสูงทำให้ไตต้องทำงานหนัก และเสี่ยงต่อภาวะไตเสื่อม
- ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ความดันสูงทำให้หลอดเลือดในไตเสียหายและกรองโปรตีนได้ไม่ดี
- คนที่กินเค็มจัด โซเดียมสูงทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้น เพิ่มความเสี่ยงของโรคไต
- คนที่ใช้ยาแก้ปวดติดต่อกันนานๆ พวกยากลุ่ม NSAIDs เช่น ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) หรือ ไดโคลฟีแนค (Diclofenac) ส่งผลเสียต่อไตถ้าใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
ถ้าคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยงตามที่ผมพูดมา แนะนำให้ตรวจสุขภาพไตเป็นประจำ เพื่อป้องกันปัญหาก่อนที่จะสายเกินไป
4. ตรวจเจอโปรตีนรั่วต้องทำยังไง?
หากสงสัยว่ามีโปรตีนรั่ว สามารถตรวจหาได้ง่ายๆ ด้วยการตรวจปัสสาวะ ซึ่งมีหลายวิธี ได้แก่
Urine Dipstick วิธีตรวจแบบแถบทดสอบที่ให้ผลเร็ว
- Urine Protein/Creatinine Ratio (UPCR) ตรวจหาปริมาณโปรตีนในปัสสาวะเทียบกับครีเอตินิน
- 24-Hour Urine Protein Test เก็บปัสสาวะ 24 ชั่วโมงเพื่อตรวจหาปริมาณโปรตีนที่รั่วออกมา
หากพบว่ามีโปรตีนรั่ว อาจต้องตรวจเพิ่มเติม เช่น
- ตรวจเลือด เช็กค่าการทำงานของไต เช่น eGFR, Creatinine, BUN
- ตรวจอัลตราซาวด์ไต เพื่อตรวจดูโครงสร้างไตว่ามีความผิดปกติไหม
5. ป้องกันโปรตีนรั่วได้อย่างไร?
แม้ว่าโปรตีนรั่วจะเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพ แต่สามารถป้องกันได้ ด้วยการดูแลตัวเองให้ดี โดยเฉพาะการดูแลไต
✔ ควบคุมน้ำตาลและความดันให้ดี จะช่วยลดภาระการทำงานของไต
✔ ลดกินเค็ม เลี่ยงอาหารโซเดียมสูง เพราะอาหารโซเดียมสูงทำให้ไตทำงานหนักและเสี่ยงต่อโรคไต
✔ ดื่มน้ำให้เพียงพอ จะช่วยให้ไตทำงานได้ดีขึ้น แต่ควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม
✔ ออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น และลดความเสี่ยงโรคไต
✔ หลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้ปวดพร่ำเพรื่อ ยาแก้ปวดบางชนิดอาจทำให้ไตเสื่อมเร็วขึ้น
การดูแลสุขภาพไตตั้งแต่วันนี้ จะช่วยลดความเสี่ยงโปรตีนรั่ว และยังป้องกันโรคไตในระยะยาว เพราะฉะนั้นอย่าลืมดูแลตามข้างบนที่ผมบอกนะ รักไต อยากมีไตใช้นานนาน ก็ต้องดูแลตัวเองนะครับ ใครมีคำถามคอมเมนต์ได้เลยครับ