สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ว่า นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.การต่างประเทศรัสเซีย กล่าวหลังพบหารือกับนายมาร์โก รูบิโอ รมว.การต่างประเทศสหรัฐ ที่กรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่าการปรากฏตัวของทหาร หรือกองกำลังจากประเทศใดก็ตาม ภายใต้ธงชาติของสมาชิกประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) “เป็นเรื่องที่รัสเซียรับไม่ได้” เนื่องจาก “เป็นภัยคุกคามโดยตรง” ต่อรัฐบาลมอสโก
???? | Highlights from the talks hosted by the Kingdom of Saudi Arabia between the Russian Federation and the United States of America. pic.twitter.com/xLerLeUHk2
— Foreign Ministry ???????? (@KSAmofaEN) February 18, 2025
The deployment of armed troops from NATO countries under any different flag, under the EU flag or under national flags does not change anything. It’s UNACCEPTABLE for us – Lavrov pic.twitter.com/oVVKBtsago
— RT (@RT_com) February 18, 2025
ขณะที่นายมาร์โก รูบิโอ รมว.การต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า การเจรจาครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้น “ของการเดินทางบนเส้นทางสำคัญที่ยาวนาน และมีความสำคัญอย่างมาก” และจะมีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อหารือร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับการยุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน

ทั้งนี้ คณะผู้แทนเจรจาของทั้งสองฝ่ายกล่าวไปในทางเดียวกันว่า “ยังเร็วเกินไป” ที่จะกล่าวอย่างเจาะจง เกี่ยวกับการพบหารือระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์กล่าวในเวลาต่อมา ว่า “มีความเป็นไปได้” ที่จะได้มีโอกาสพบหน้าหารือกับรัสเซีย ก่อนสิ้นเดือน ก.พ. นี้ และกล่าวว่า โดยส่วนตัวเขา “มีความเชื่อมั่นมากขึ้น” เกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ระหว่างรัสเซียกับยูเครน พร้อมทั้งยืนยันว่า หากต้องมีการส่ง “กองกำลังรักษาสันติภาพ” เข้าไปในยูเครนในอนาคต “เป็นเรื่องของยุโรปเท่านั้น”.
เครดิตภาพ : AFP