เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ดร.พิมพ์พัชชา หยิมการุณ นายกเทศมนตรีเมืองบางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมด้วย นายกีรติ คุณวโรตม์ รักษาการปลัดเทศบาลเมืองบางคูรัด นำหลักฐานเดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.สคุณ เครือคำ รองสารวัตรสอบสวน สภ. บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังถูกอดีตบุคลากรที่เคยทำงานที่เทศบาลเมืองบางคูรัดโพสต์หมิ่นประมาทในโลกโซเชียล
โดยหลักฐานที่นำมาแจ้งความเป็นการโพสต์รูปภาพและข้อความ มีใจความว่า ”ยิ่งค้น ยิ่งได้รู้ เอาคนของตัวเองมาโกง อาหารเด็กจนทำข้าวบูดไม่พอ โกงสอบ พนักงาน จนได้คนจบ ป.4 มาทำงานที่ศูนย์ พัฒนาเด็กเล็กเทศบาล… (ป.4 อดีตภารโรง ทั้งๆที่ตำแหน่งนี้มีคนจบ ป.ตรีมาสมัคร แต่ นายกจะเอา ป.4 ) โกงค่างานจัดงานวันเด็ก เอารถหลวงไปใช้ส่วนตัว… “
นอกจากนี้ยังนำภาพโครงการศึกษาดูงานมาโพสต์ โดยระบุข้อความว่า “ไปศึกษาดูงานหรือไปเที่ยว ” รวมทั้งการโพสต์เรื่องการใช้ของแบรนด์เนม เอาเงินที่ไหนไปซื้อใช้ โดยทั้งหมดทางเทศบาลเมืองบางคูรัดมีหลักฐานในการชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ไปก่อนหน้านี้แล้ว

ดร.พิมพ์พัชชา หยิมการุณ นายกเทศมนตรีเมืองบางคูรัด กล่าวว่า วันนึ้นำหลักฐานเข้าแจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เนื่องจากบุคคลดังกล่าวเคยเป็นบุคลากรของเทศบาล จากนั้นได้ลาออกไปเมื่อปลายปี 67 หลังจากลาออกได้มีการโพสต์กล่าวหา ผ่านทางโซเชียล ทำให้ตนและองค์กรได้รับความเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างชัดเจน เช่นโกงโครงการศึกษาดูงาน โกงค่าอาหารกลางวันเด็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆมีทั้งเรื่องจริงและเรื่องไม่จริง อย่างเรื่องจริงคือเรื่องข้าวบูด ซึ่งทางเทศบาลมีคณะกรรมการตรวจรับหรืออาหารกลางวันให้เป็นไปตามมาตรฐาน และมีการทำโทษผู้ประกอบการที่ทำผิดผลาด เช่นการตัดเงิน ซึ่งเป็นไปตามระเบียบกฏหมาย ทางเทศบาลได้ดำเนินการไปแล้ว และทำตามอำนาจหน้าที่ที่กฏหมายบังคับ
ดร.พิมพ์พัชชา กล่าวอีกว่า ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร แต่อีกเดือนกว่าตนจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ พอมาเห็นการโพสต์ที่ถี่ขึ้นทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องการเมือง และเรื่องการเสื่อมเสียชื่อเสียงของเทศบาลเมืองบางคูรัด โดยเฉพาะเรื่องที่เขาโพสต์เรื่องโกงการสอบ ตนยืนยันว่าไม่ได้มีพฤติกรรมอย่างนั้นเพราะทางเทศบาลมีคณะกรรมการในการตรวจสอบ และโปร่งใสตรวจสอบได้ ตนจึงต้องออกมาเรียกร้องสิทธิ์และปกปัองศักดิ์ศรีของตัวเองและศักดิ์ศรีขององค์กร ตนมั่นใจว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเมืองที่จะมีการเลือกตั้งในเร็วๆนี้ เพราะการกระทำของเขาเคลื่อนไหวไปที่เรื่องโกง โดยโพสต์ไปตามเพจโซเชียลต่างๆ มันเป็นการดิสเครดิต พอตนทราบเรื่องจึงนิ่งนอนใจไม่ได้ เพราะตนเป็นนักการเมืองที่มีการตรวจสอบบัญชีตรวจสอบทรัพย์สินอยู่แล้ว ส่วนคนที่นำเรื่องไปโพสต์ตนไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว และไม่เคยมีเรื่องผิดใจกัน จึงมั่นใจว่าเป็นเรื่องการเมืองแน่นอน และทุกโพสต์ที่ไม่ใช่เรื่องจริง มีค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบ