เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2568 นายคารม พลพรกลาง ในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เปิดเผยว่า การที่นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมาตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก.ที่ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยอ้างว่ามีการทับซ้อนกับที่ดินนิคมสร้างตนเองลำตะคองนั้น นายธนดล มีเจตนาอย่างไร ในเมื่อตาม พ.ร.บ.จัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 ที่รัฐบาลจัดสรรให้สมาชิกของนิคมสร้างตนเองที่มีเอกสารที่ดินที่ครอบครองที่ดิน หรือ น.ค.3 พ้น 5 ปี นับแต่วันที่ออกโฉนดสามารถโอนให้บุคคลอื่นได้ และกรมที่ดินได้ยืนยันแล้วว่า การออกโฉนดที่ดินตามขั้นตอนดังกล่าวนั้นถูกต้อง ซึ่ง ส.ป.ก.ไม่เคยคัดค้าน แม้กรมที่ดินจะได้สอบถามตามหนังสือของ มท.0516.2(1)/3703 ลงวันที่ 17 ก.พ. 2568 โดยกรมที่ดิน ยืนยันว่ากรมที่ดินได้ออกโฉนดมาอย่างถูกต้อง
นายคารม กล่าวต่อว่า ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 37 ได้รับรองสิทธิในการถือครองทรัพย์สินของประชาชนไว้ด้วย และโฉนดที่ดิน ถือเป็นกฎหมายมหาชน ที่ทางราชการออกให้ ถ้ามีการออกโฉนดที่ดินและภายหลังมีการเพิกถอนโฉนดที่ดินโดยง่าย ไม่มีระเบียบกฎหมายรองรับ ย่อมจะสร้างความสั่นคลอนในระบบเศรษฐกิจอย่างมาก เพราะที่ดินคือหลักประกันของการลงทุนของนักลงทุน และ พ.ร.บ.จัดที่ดิน เพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 รัฐบาลในขณะนั้นต้องการให้ประชาชนที่ยากจนมีที่ทำกิน บนที่ดินรกร้างว่างเปล่า จึงได้จัดสร้างนิคมสร้างตนเองขึ้น
นายคารม กล่าวเพิ่มเติมว่า การแก้ไขปัญหาเขตทับซ้อนของแนวเขตที่ดินระหว่าง ส.ป.ก.กับนิคมสร้างตนเอง ทางราชการได้พยายามแก้ปัญหาดังกล่าว โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ คณะกรรมการนโยบายที่ดินนโยบายแห่งชาติ แต่การแก้ไขปัญหาที่ดินที่มีเอกสารหลายอย่าง และมีที่ดินหลายประเภท มีความละเอียดอ่อน ถ้ายังไม่มีการตกผลึก หรือยุติว่าเป็นอย่างไร การที่ออกมาให้ข่าว ทั้งที่บุคคลที่ให้ข่าวนั้น จะมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายทำได้หรือไม่ เพราะการให้ข่าวในลักษณะดังกล่าวนั้น มีผลกระทบต่อบุคคลถือครองที่ดิน ต่อนักลงทุนที่ได้ซื้อที่ดินจากผู้ขายมาเป็นทอดๆ จึงย่อมสร้างความตระหนกแตกตื่นกับคนที่ลงทุนทั่วประเทศ
“แม้ว่าเดิมบริเวณ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นพื้นที่ทางการเกษตร รายได้ของประชาชนส่วนใหญ่มาจากการเกษตร แต่ปัจจุบันในบริเวณนี้เศรษฐกิจได้เปลี่ยนไป เป็นเศรษฐกิจอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รายได้ประชาชนส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องและมีมูลค่านับหลายหมื่นล้าน การจะทำให้เศรษฐกิจของอำเภอปากช่องกลับไปเป็นระบบเศรษฐกิจเกษตรดั้งเดิมนั้นก็ทำไป แต่จะมาทำลายระบบเศรษฐกิจท่องเที่ยว และประโคมข่าวก่อนบอกว่าจะเพิกถอนโฉนดที่ดินจำนวนประมาณ 28,000 ไร่นั้น นี่คือเป็นการแก้ปัญหา หรือสร้างปัญหาขึ้นใหม่ แบบไร้ความรับผิดชอบ ต่อคนปากช่องที่ถือครองเป็นโฉนดที่ดินอยู่บริเวณนี้และอาจลุกลามไปทั่วประเทศ” นายคารม กล่าว
“การเป็นนักการเมืองที่ดี ไม่ใช่อยากสร้างชื่อเสียง หิวแสง แต่ทำให้คนอื่นเสียหายนั้น เป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบ ผมในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่าบริษัทฯ เจ้าของสนามกอล์ฟ แรนโช ชาญวีร์ฯ นั้น ได้ที่ดินมาอย่างถูกต้อง แต่ผมจำเป็นต้องแสดงความคิดเห็นในฐานะนักการเมืองว่า การทำงานการเมืองนั้น ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อประชาชนและคำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำของท่านด้วย อย่า “มาเผานา เพื่อฆ่าหนู” อย่าเล่นแต่การเมือง จนขาดความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองและประชาชน ทั้งนี้ การทำหน้าที่ของคุณธนดล จะให้เป็นการกระทำหน้าที่ครบถ้วน จะต้องไปตรวจที่ดิน ส.ป.ก.รายหนึ่งของนักธุรกิจที่ จ.ภูเก็ตด้วย” นายคารม กล่าว.