สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 18 ก.พ. เกี่ยวกับความคืบหน้า เหตุเครื่องบินโดยสารบอมบาเดียร์ ซีอาร์เจ-900 ของสายการบินเดลตา แอร์โลน์ส เที่ยวบินดีแอล4819 พร้อมผู้โดยสาร 76 คน และลูกเรือ 4 คน เดินทางมาจากเมืองมินนีแอโพลิส ในรัฐมินนิโซตาของสหรัฐ เสียหลักพลิกหงายท้องขณะลงจอด ที่ท่าอากาศยานนานาชาติโทรอนโต เพียร์สัน ในเมืองโทรอนโต ของแคนาดา เมื่อช่วงบ่ายของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น


สำนักงานดับเพลิงประจำท่าอากาศยานนานาชาติโทรอนโต เพียร์สัน รายงานจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเป็นอย่างน้อย 18 คน และเจ้าหน้าที่ยืนยันสถานะของผู้โดยสารและลูกเรือได้ครบทุกคนแล้ว


ด้านนางเดบราห์ ฟลินต์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของท่าอากาศยานนานาชาติโทรอนโต เพียร์สัน ยกย่องการทำงานของพนักงานต้อนรับบนเที่ยวบิน และเจ้าหน้าที่ตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉิน จากหน่วยงานทุกแห่งที่ประจำอยู่ในสนามบิน ซึ่งร่วมกันป้องกันไม่ให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้


อย่างไรก็ตาม รันเวย์สองแห่งของสนามบินจำเป็นต้องปิดชั่วคราว เพื่อการทำงานของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ด้านข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า ไม่ได้มีกระแสลมแรง และรันเวย์มีสภาพแห้ง ในช่วงเวลาเกิดเหตุ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ในแคนาดา เผชิญกับพายุหิมะ ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา และมีการเตือนภัยสภาพอากาศเลวร้ายจากหิมะในหลายพื้นที่


เหตุการณ์เครื่องบินหงายท้อง ที่สนามบินโทรอนโต เพียร์สัน ถือเป็นอุบัติเหตุทางอากาศยาน ครั้งล่าสุดในอเมริกาเหนือ ต่อจากเหตุเครื่องบินโดยสารของอเมริกัน แอร์ ในเครืออเมริกัน แอร์ไลน์ส ชนกันกลางอากาศ เหนือแม่น้ำโพโทแมก ในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 67 ราย


ตามด้วยเหตุเครื่องบินพยาบาลตก ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย ในรัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย และได้รับบาดเจ็บ 19 คน และเครื่องบินขนาดเล็กของสายการบินเบริง แอร์ ตกที่รัฐอะแลสกาของสหรัฐ มีผู้เสียชีวิต 10 ราย เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา.

เครดิตภาพ : AFP