เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 17 ก.พ. 68 เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างอริยะฯ จุดเขาพระ ได้รับแจ้งมีบุคคลจำนวนสูญหายบนเขาฝาละมี หมู่ 13 ต.พรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก ซึ่งเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวกับ ต.เขาพระ จึงได้นำกำลังอาสากู้ภัยฯ รุดไปตรวจสอบและช่วยเหลือ
เมื่อไปถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบกับญาติผู้สูญหาย 3 ราย สอบถามข้อมูลเบื้องต้น ทราบว่า ผู้สูญหาย ชื่อ นายสุรัตน์ สมบัติ อายุ 48 ปี ได้ขึ้นไปถ่ายรูปบนเขาเพียงคนเดียวตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ แต่ในช่วงเย็นได้โทรติดต่อมาหาญาติแล้วบอกว่า หลงป่าให้มาช่วยหน่อย พวกญาติๆ จึงได้เดินทางมาบริเวณจุดที่ผู้สูญหายได้ให้ข้อมูล จากนั้นจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้เข้าช่วยเหลือ ซึ่งทางญาติได้ให้ข้อมูลว่าผู้สูญหายสามารถติดต่อได้ทางโทรศัพท์ ซึ่งเป็นแบบปุ่มกด ไม่สามารถส่งพิกัดใดๆ ได้ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ให้โทรติดต่อกับนายสุรัตน์ เพื่อสอบถามข้อมูล ทางนายสุรัตน์ บอกว่า ตอนนี้ตนมองเห็นอ่างเก็บน้ำคลองโบด เห็นเสาสัญญาณโทรศัพท์ และจะมีกระต๊อบอยู่ด้านบนเขา 1 หลัง ซึ่งตนนั้นหมดแรงไม่สามารถเดินได้ และถูกตัวอะไรกัดไม่ทราบ และตนนั้นมีโรคประจำตัวทำบอลลูนหัวใจ ซึ่งระหว่างพูดคุย นายสุรัตน์ มีน้ำเสียงที่อ่อนแรง และย้ำให้เจ้าหน้าที่รีบขึ้นไปรับตนโดยด่วน เพราะตนไม่ไหวแล้ว เดินไม่ได้คลานได้อย่างเดียว ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้บอกให้รออยู่กับที่ก่อน เพราะต้องประสานเจ้าหน้าที่ทหาร โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าก่อน เนื่องจากบริเวณเขาดังกล่าวเป็นพื้นที่ของทางทหาร

โดยระหว่างเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังประสานกับทหารและหน่วยงานต่างๆ อยู่ ทางญาตินายสุรัตน์ทั้ง 3 คน ร้อนใจ บอกว่าจะขึ้นไปหาเองไม่รอเจ้าหน้าที่ เพราะเป็นห่วงนายสุรัตน์ จากนั้นทั้ง 3 คน ก็เดินขึ้นเขาหายไปกว่า 2 ชั่วโมง จากนั้น ทั้ง 3 คน ได้ติดต่อกลับลงมาทางโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่กู้ภัยด้านล่างว่าเจอตัว นายสุรัตน์ แล้ว แต่ไม่สามารถลงกลับกันมาได้ จำทางไม่ได้ เพราะทางมืดมาก อีกทั้งบริเวณที่สูญหายเป็นป่าทึบ
ทางด้าน พ.อ.วัชรระ ว่องวิกย์การ ผู้บังคับกองพันทหารราบโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เมื่อรับทราบข้อมูล ได้รีบจัดส่งกำลังทหารชุดค้นหาออกมาทันที เพื่อร่วมกับทีมกู้ภัย เดินเท้าขึ้นบนเขาไปรับทั้ง 4 คน เมื่อชุดค้นหาได้เดินเท้าขึ้นไปด้านบนเขาประมาณ 30 นาที อยู่ผู้สูญหายทั้ง 4 คน ก็ได้เดินลงมาจากเขาตรงจุดที่เจ้าหน้าที่ตั้งกองอำนวยการอยู่ เมื่อสอบบถามก็ยืนยันว่าเป็นผู้สูญหายทั้ง 4 คน โดยได้เห็นแสงไฟส่องสว่างของเจ้าหน้าที่ด้านล่าง ก็เลยพากันเดินตามแสงไฟลงมาจนมาเจอเจ้าหน้าที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ด้านล่างจึงได้แจ้งทางทีมค้นหาบนเขาว่าพบตัวผู้สูญหายแล้ว ให้ถอนกำลังกลับลงมาได้เลย
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายสุรัตน์ ผู้ที่สูญหายคนแรก ว่าขึ้นไปทำอะไรด้านบนเขา นายสุรัตน์ บอกว่า ขึ้นไปถ่ายภาพฐานทัพเก่าของทหารญี่ปุ่นตั้งแต่เวลา 14.00 น. เพราะตนนั้นชอบศึกษาด้านพวกนี้ และได้ตั้งใจว่าจะลงมาในเวลา 16.00 น. แต่กลับหลงทาง

สำหรับเขาลูกนี้มีชื่อว่า เขาฝาละมี ตามประวัติเคยมีทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกได้มาตั้งฐานทัพอยู่บนนี้ ซึ่งด้านบนเขาจะมีพวกบังเกอร์ ถ้ำ ต่างๆ ที่ทหารญี่ปุ่นได้เคยสร้างไว้ ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่ทหารของโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ดูแลพื้นที่อยู่ และไม่ได้อนุญาตให้บุคคลภายนอกขึ้นไป ซึ่งนายสุรัตน์ ก็ได้ให้ผู้สื่อข่าวดูภาพที่ถ่ายมาในกล้องถ่ายรูป ก็พบว่าได้มีรูปภาพพวกบังเกอร์ของทหารญี่ปุ่น ต่างๆ อยู่ในกล้องถ่ายรูปจริง ทางเจ้าหน้าที่ได้ปฐมพยาบาล และจะส่งตัวไป รพ. ต่อ แต่ทางนายสุรัตน์ บอกว่าตนยังไหวอยู่ไม่ไป รพ. เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ญาติพากลับบ้านไปพักผ่อน เนื่องจากนายสุรัตน์ ยังคงมีอาการที่อ่อนเพลียอยู่ และได้ตักเตือนว่าอย่าขึ้นไปคนเดียวแบบนี้อีก.