เวลา 15.10 น. วันที่ 17 ก.พ. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  เดินทางถึงจังหวัดสงขลา เพื่อลงพื้นที่พูดคุยเรื่องกระบวนการผลิตและส่งออกอาหารทะเลที่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน ซีฟู๊ด จำกัด ตำบลวัดขนุน อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา โดยนายกฯรับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการภายในบริษัทฯ

ต่อมาเวลา 16.45 น. นายกฯ เยี่ยมชมชุมชนเมืองเก่าสงขลา และพูดคุยประเด็นการส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสงขลา ที่ย่านเมืองเก่าสงขลา ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย  นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช. มหาดไทย และประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา

เมื่อเดินทางถึง นายกฯ และคณะเยี่ยมชมอาหารมุสลิมพหุวัฒนธรรมบ้านบน ก่อนเยี่ยมชมวิวปากน้ำทะเลสาบสงขลา จากนั้นนายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวรายงาน จังหวัดสงขลาขับเคลื่อนให้จังหวัดเป็นเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกด้านอาหารในปี 2568 และที่สำคัญขณะเดียวกันเราได้วางแผนในการส่งเสริมให้จังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดที่เข้าสู่มรดกโลกในปี 2570 และปี 2567 มีนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 7 ล้านคน มีรายได้อยู่ที่ 5.02 หมื่นล้านบาท จะเห็นว่าการเติบโตด้านการท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่องทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ

ด้านประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา กล่าวเสนอการพัฒนาพื้นที่จังหวัดสงขลา เช่น การสร้างท่าเรือขนาดเล็กที่ปลอดภัย และเหมาะสมตามมาตรฐาน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่ง รองรับเรือสำราญที่จอดในร่องน้ำลึก และผลักดันเขตเศรษฐกิจใหม่ในอำเภอหาดใหญ่ เพื่อให้กลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกครั้ง 

นอกจากนี้ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา ยังเสนอรัฐบาลให้แก้ปัญหาเรื่องเรดโซน (พื้นที่สีแดง) เนื่องจากที่ผ่านมาจังหวัดสงขลาเคยมีปัญหาเรื่องความไม่สงบจนบริษัทประกันภัยไม่คุ้มครองนักท่องเที่ยวที่มาในพื้นที่จังหวัดสงขลา แต่ขณะนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาระบุว่าพื้นที่สงขลาปลอดภัยแล้ว  จึงอยากให้ออกมาตรการเช่นพื้นที่เขตธุรกิจใหม่ ออกกฎหมายเพื่อให้มีมาตรฐาน ตามสากล ยกเว้นเรื่องภาษีต่างๆ และจัดอีเวนต์ดึงดูดนักท่องเที่ยว

ด้านนายกฯ กล่าวว่า เรื่องของการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา เห็นแล้วว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงมาก เพราะเห็นแค่ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่น่าสนับสนุน และยังคิดอยู่ในใจ และคุยกับรองนายกฯ ว่าการท่องเที่ยวแบบลักชูรี่ และเรือครูซ แบบจังหวัดภูเก็ตที่รับนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว  เราพยายามจะให้ประเทศของเราทุกพื้นที่ไม่จำเป็นแค่เมืองหลัก เมืองรองมีโอกาสเป็นพื้นที่จังหวัดน่าเที่ยวของทั้งโลก ทั้งนี้ เรื่องกฎหมายบางฉบับไม่ได้ปรับเข้ากับปัจจุบันผ่านมา 30 ปี แต่บางกฎหมาย 60 ปีก็มี กฎหมายของเรามีเป็นแสนฉบับ ประเทศไทยเป็นแบบนี้จริงๆ ซ้ำซ้อนกัน ซึ่งกฎหมายมีมานาน อยากให้ทางท้องถิ่นนำเสนอขึ้นมาว่ามีอะไรบ้างที่จะปรับกันได้บ้าง

นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้ที่มามองเห็นว่าจังหวัดสงขลาสวยจริงๆ น่าเที่ยว และอีกอย่างถือเป็นประเด็นที่ต้องไปเคลียร์เรดโซน (พื้นที่สีแดง) ถ้าเราไม่ได้มีความรุนแรงเกิดขึ้นต้องดูเรื่องของประกันให้ครอบคลุมไปด้วย  ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบแล้ว และได้ยินอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้ามีข้อมูลอะไรขอให้ส่งมา เราจะช่วยกัน ภาครัฐ และภาคเอกชนถ้าร่วมมือกันคิดว่าสงขลาไปได้อีกไกลแน่นอน  ยืนยันว่าจังหวัดมีศักยภาพสูง เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งท้อใจ ทุกอย่างใช้เวลาเล็กน้อย  ขอให้ช่วยกัน พี่น้องประชาชน ชุมชนเข้มแข็งแบบนี้พัฒนาได้ง่าย

จากนั้นนายกฯ เดินเยี่ยมชมเมืองเก่าสงขลา ก่อนหยุดชมการแสดงรองเง็ง  และชมการแสดงมโนราห์  รวมถึงเยี่ยมชมบ้านนครใน ซึ่งเป็นบ้านโบราณเก่าแก่ย่านสงขลา ที่มีอายุมากกว่า 300 ปี โดยมีประชาชนสนใจเดินตามถ่ายรูปนายกฯ และขอถ่ายรูปกับนายกฯ ตลอดเส้นทาง

ทั้งนี้ระหว่างเดินเยี่ยมชมย่านเมืองเก่า นายกฯ ได้แวะร้านบ้านจงดี ขนมไทย ชิมขนมทองเอก โดยนายกฯ ได้ชิมขนมพร้อมชวนรัฐมนตรีที่ร่วมคณะชิมขนมด้วย  โดยระหว่างนั้นมีชาวบ้านเข้ามามอบดอกกุหลาบให้นายกฯ พร้อมเรียกร้องให้นายกฯ ดำเนินการเรื่องเงินเยียวยาน้ำท่วม โดยนายกฯ ตอบว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเข้าที่ประชุม ครม.แล้ว”

จากนั้นนายกฯ และคณะ เข้าสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเดินทางมาเยือนจังหวัดสงขลา  และแวะชิมไอศกรีมถั่วเขียวโบราณ ร้านบันหลีเฮง จากนั้นนายกฯ เดินทางไปยังแหลมสมิหลา เพื่อรับประทานอาหารเย็น และถ่ายภาพร่วมกับคณะที่บริเวณรูปปั้นนางเงือก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำแหลมสมิหลา ก่อนพักค้างคืนที่จังหวัดสงขลา 1 คืน ก่อนที่วันที่ 18 ก.พ.นำประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา.