เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจัดสรรที่ดินนิคมสร้างตนเองลำตะคอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ให้ชาวบ้านเข้าทำกิน แต่ถูกตั้งข้อสังเกตมีการขยายพื้นที่ทับซ้อนจนมีการออกเอกสารสิทธิให้เอกชนครอบครอง ว่า แต่ละนิคมสร้างตนเองจะมีจุดกำเนิดที่แตกต่างกัน อย่างที่นิคมฯ ควนขนุนที่ จ.พัทลุง แห่งนี้ ก็จะมีประวัติความเป็นมาของตัวเอง หรือพื้นที่นิคมฯ ลำตะคองที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีกระทรวง พม. ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2545 แต่นิคมฯ ลำตะคองตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2515 โดยคำสั่งของคณะปฏิวัติในขณะนั้น 

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ซึ่งแต่ละห้วงการดูแลของพื้นที่นิคมฯ จะแตกต่างกันไป แต่จะอยู่ภายใต้กรมประชาสงเคราะห์ ของกระทรวงมหาดไทย ดังนั้น การกำหนดพื้นที่หรือแม้แต่การออกใบนิคมสร้างตนเองประเภท 1 (น.ค.1) หรือ น.ค.3 ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิในที่ดิน จะเป็นการดูแลของกรมประชาสงเคราะห์ ไทม์ไลน์แต่ละช่วงเวลานั้นจะมีความชัดเจนว่า มีการประกาศเป็นพื้นที่นิคมฯ หรือเมื่อปี พ.ศ. 2538 ได้มีการขยายพื้นที่เพิ่มจากเดิม 280,000 ไร่ เพิ่มอีก 46,000 ไร่ ตามคำตัดสินของคณะกรรมการตรวจสอบแนวเขตที่ดินนิคมสร้างตนเองลำตะคอง จ.นครราชสีมา 

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ต้องไปดูในมิติของคำสั่งนั้นว่าใช้อำนาจหรือมีแนวทาง หรือมีต้นสายปลายเหตุอย่างไร แต่วันนี้ขอยืนยันว่าการทำงานของกระทรวง พม. นั้น ทุกอย่างมีเอกสาร สามารถไล่เรียงตามห้วงเวลาได้เสมอ เพียงแต่ว่าการที่จะออกโฉนดหรือออกใบอนุญาตให้คนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์นั้นๆ ไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวง พม. คงต้องเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกระทรวง พม. นั้น ออกได้เพียงแค่ใบ น.ค.1 หรือ น.ค.3 และตลอดระยะเวลาที่ตนมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น เรายังไม่มีการออกใบ น.ค.3 ให้กับประชาชน คงจะต้องไปดูว่าในแต่ละพื้นที่นั้น เอกสารสิทธิที่ออกมานั้นได้ออกมาในห้วงวันที่เวลาใด เป็นอำนาจหน้าที่ของใคร แต่กระทรวง พม. ขอยืนยันว่าทำงานโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ตามเอกสารตามแต่ละห้วงเวลาได้

////