ปียอตร์ มิกา ผู้เชี่ยวชาญด้านชาจากบอสตันชี้ให้เห็นว่า เมื่อจับคู่ระหว่างเครื่องดื่มประเภทชาชนิดต่าง ๆ และขนมช็อกโกแลต ผู้ที่รับประทานจะได้รับประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างเกินคาด
“ในศตวรรษที่ 17 ชาและช็อกโกแลตถือเป็นสินค้าชั้นสูง ทันสมัย และมีสรรพคุณทางยา” มิกากล่าว เขาอธิบายว่า ชาและช็อกโกแลต โดยเฉพาะช็อกโกแลตดำ มีสารโพลีฟีนอลซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ในปริมาณสูง และสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งและมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้านอื่นๆ ได้
เว็บไซต์วารสารทางการแพทย์ “เฮลท์ไลน์” แห่งสหรัฐรายงานว่า สารต้านอนุมูลอิสระและฟลาโวนอลในโกโก้และดาร์กช็อกโกแลตสามารถลดการอักเสบและช่วยให้เซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือดแดงแข็งแรง พร้อมทั้งระบุรายละเอียดด้วยว่า ชายอดนิยมอย่างชาเขียว ชาขิง และชาโรสฮิป ช่วยต่อต้านการอักเสบและป้องกันความเสียหายจากออกซิเดชั่น (ความไม่สมดุลระหว่างการสร้างอนุมูลอิสระและศักยภาพการกำจัดอนุมูลอิสระในร่างกาย ทำให้เซลล์เสียหาย) ได้อีกด้วย
มิกาอธิบายว่า อังกฤษและประเทศในซีกโลกตะวันออกจะนิยมดื่มชา ขณะที่ฝรั่งเศสและอิตาลีจะชื่นชอบการดื่มไวน์ เขาเชื่อว่าเมื่อจับคู่ดาร์กช็อกโกแลตเข้ากับชาดำ, ชาผู่เอ๋อร์หรือชาสมุนไพรอื่น ๆ ที่ผลิตจากผลไม้ประเภทเบอร์รี, ชากุหลาบและชาจากผลไม้ตระกูลส้ม-มะนาว จะยิ่งช่วยเสริมประโยชน์ให้กัน
เอมี เชอร์แมน ผู้ที่ชื่นชอบชาและบรรณาธิการบริหารของเว็บไซต์ เดอะ ช็อกโกแลต โปรเฟสเซอร์ ชี้ว่า การจับคู่ชากับช็อกโกแลตก็คล้ายกับการจับคู่ไวน์กับช็อกโกแลต กล่าวคือสามารถจับคู่ให้รสชาติเข้ากันหรือตัดกันก็ได้
เชอร์แมนยังกล่าวถึงเทรนด์ยอดนิยมอีกอย่างหนึ่งคือแท่งช็อกโกแลตรสชาต่าง ๆ ซึ่งมีผู้ผลิตออกมาหลายเจ้า หลายรสชาติ
วิลเลียม มัลเลน ผู้อำนวยการแบรนด์ราคคา ช็อกโกแลตในบรูคลิน นครนิวยอร์ก กล่าวว่าบริษัทของเขาผลิตช็อกโกแลตรสชามาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014 โดยเปิดตัวรสชาติแรกคือดาร์กช็อกโกแลตรสชาเอิร์ลเกรย์
ขณะที่ชาบางชนิดสามารถดึงความหวานของดาร์กช็อกโกแลตออกมาได้ มันก็สามารถช่วยส่งเสริมคุณประโยชน์ของช็อกโกแลตได้เช่นกัน
“ธีโอโบรมีนและกาเฟอีนเป็นสารกระตุ้นทั้งคู่ และสามารถช่วยในเรื่องสมาธิและอารมณ์” มัลเลนกล่าวถึงสารที่มีอยู่ทั้งในชาและช็อกโกแลต “หากคุณต้องการทำงานให้เสร็จโดยที่รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีสมาธิ การดื่มชาและรับประทานช็อกโกแลตในปริมาณที่เหมาะสมเพียงเล็กน้อยก็อาจเป็นประโยชน์อย่างมาก”
ที่มา : nypost.com
เครดิตภาพ : dungthuyvunguyen from Pixabay
