การระบาดของโรคไข้หวัดนกในสหรัฐเมื่อไม่นานมานี้ นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อฟาร์มสัตว์ปีกหลายแหล่ง โดยข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐระบุว่า ประชากรไก่ไข่ลดลงมากกว่า 21 ล้านตัวในปีนี้ หลังไก่ไข่ถูกกำจัดไปแล้ว 13.2 ล้านตัว เมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ไข่ไก่กลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีค่าของสหรัฐในทุกวันนี้ ซึ่งนายจอห์น เบอร์รี ผู้บริหารบริษัทปศุสัตว์แห่งหนึ่งในเมืองฮิวสตัน รายงานว่า ความต้องการไก่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะผู้บริโภคต้องรับมือกับปัญหาขาดแคลนไข่

“ยอดขายสัตว์ปีกของเราเพิ่มเป็นสองเท่า หรืออาจจะถึงสามเท่า นั่นหมายความว่า เราขายไก่ได้ 100 ตัวต่อสัปดาห์ หรือมากกว่านั้น” เบอร์รี กล่าวเพิ่มเติม

ปัจจุบัน ไข่ไก่ระดับพรีเมียม 12 ฟอง มีราคาสูงถึง 10 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 337 บาท) ในซูเปอร์มาร์เกตบางแห่งของสหรัฐ แม้แต่ไข่ไก่เกรดต่ำกว่า ก็มีราคาเพิ่มเป็นสองเท่าของราคาปกติ ซึ่งอยู่ที่ระหว่าง 2-3 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 67-101 บาท)

ด้านร้านขายของชำยอดนิยมอย่าง “เทร เดอร์ โจส์” (Trader Joe’s) ก็จำกัดการซื้อไข่ไก่ทุกชนิดไม่เกิน 1 โหลต่อครัวเรือนต่อวัน เช่นเดียวกันกับ “คอสต์โก” (Costco) ขณะที่ร้านอาหาร “วาฟเฟิล เฮาส์” (Waffle House) เก็บเงินลูกค้าเพิ่ม 0.5 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17 บาท) ต่อไข่หนึ่งฟอง เพื่อชดเชยต้นทุนที่สูงขึ้น

ทั้งนี้ เบอร์รีกล่าวว่า คนที่ซื้อไก่ของเขา ส่วนใหญ่เป็น “มือใหม่” ในโลกของการผลิตไข่ โดยหนึ่งในนั้นคือ นายอาร์ทูโร บีเซอร์รา ซึ่งเขาเพิ่งซื้อไก่ 10 ตัวในราคา 400 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 13,500 บาท) พร้อมกับอาหารเลี้ยงไก่หนึ่งเดือน ราคา 20 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 673 บาท)

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา บีเซอร์ราซื้อไก่เพิ่ม 5 ตัว และวางแผนที่จะซื้อเพิ่มอีก 10 ตัว โดยให้เหตุผลว่า เขามีครอบครัวใหญ่ ซึ่งไก่ของเขายังอายุน้อย และต้องใช้เวลาอีก 2-3 สัปดาห์ พวกมันจึงจะเริ่มออกไข่ได้

แม้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) ระบุว่า ความเสี่ยงจากโรคไข้หวัดนกต่อประชาชนทั่วไป ยังอยู่ในระดับต่ำ แต่หน่วยงานก็เผยแพร่แนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัย สำหรับเจ้าของฝูงสัตว์ปีกในสวนหลังบ้านแล้ว พร้อมกับเสริมว่า ผู้ที่สัมผัสกับสัตว์ปีก หรือสัตว์ที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก ไม่ว่าการสัมผัสนั้นจะเกี่ยวข้องกับงาน หรือเป็นการพักผ่อนหย่อนใจ ล้วนมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ชาวอเมริกันหลายคน รวมถึงบีเซอร์รา เลือกที่จะเลี้ยงไก่เอง ให้เพียงพอต่อความต้องการของครอบครัว เพราะในตอนนี้ ราคาไข่ในสหรัฐยังคงแพงมาก.