อย่างไรก็ตามพรรคภูมิใจไทยออกตัวว่าไม่ได้ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การแก้ไขรายมาตราสามารถทำได้ทันที ส่วนการแก้ทั้งฉบับต้องทำประชามติถามประชาชนก่อน เรื่องนี้หากมีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ชี้ขาด และผลออกมาเป็นอย่างไรพรรคภูมิใจไทยก็พร้อมเดินหน้า  ซึ่งพรรคเพื่อไทยเตรียมเดินหน้าชงเรื่องยื่นสภาส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความในเรื่องนี้ และเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับพิจารณาเพราะความขัดแย้งในสภาเกิดขึ้นแล้ว  ขณะที่พรรคประชาชนออกมาไล่ตะเพิดให้ นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนหากไม่สามารถทำตามนโยบายรัฐบาลและคุมเสียงพรรคร่วมได้ 

ก่อนหน้านี้ต้องไม่ลืมว่าศึก อบจ.ที่เพิ่งจบไปหมาดๆ  ก็เป็นการแข่งขันช่วงชิงพื้นที่ฐานเสียงการเมืองท้องถิ่นระหว่างพรรคเพื่อไทยกับภูมิใจไทย  เล่นกันแรงที่ จ.ศรีสะเกษ   นายใหญ่’ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  ลงไปลุยเองบุกไล่หนูตีงูเห่าภาค 2 พร้อมกำชับ สส.ให้ยึดทุกสมรภูมิ หวังบอนไซพรรคภูมิใจไทยในระดับท้องถิ่น สร้างรอยแยกเพิ่มในพรรคร่วมรัฐบาลมาแล้ว

โดยเฉพาะภาพบาดตา ที่ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หยอก “เลขากวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย ลูกสาว “นายก ส้มเกลี้ยง” วิชิต ไตรสรณกุล ว่าที่นายกอบจ.ศรีสะเกษ ด้วยการเอาปี๊บคลุมหัว  ซึ่งวงในแจ้งว่า “นายใหญ่”ถึงกับปรี๊ดแตกเลือดขึ้นหน้าบ่นกับคนใกล้ตัวถึงพฤติกรรมดังกล่าวของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  ซึ่งไม่รู้ว่าจะส่งเอฟเฟคสะเทือนรุนแรงถึงขั้นไหน  

จากที่เคยเกิด ศึกเขากระโดง”  ที่ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.คมนาคม สั่งให้การรถไฟเดินหน้าสู้ยึดที่ดินคืนจากผู้มากบารมีในพรรคภูมิใจไทย  ต่อมาก็ถูกโต้กลับด้วย ศึกอัลไพน์” โดย ชาดา ไทยเศรษฐ์” รมช.มหาดไทย เซ็นทิ้งทวนก่อนพ้นตำแหน่งให้กลับคืนเป็นที่ดินธรณีสงฆ์

จนกระทั่งล่าสุดเกิดแผ่นดินไหวที่เขาใหญ่ เมื่อ ธนดล สุวัณณะฤทธิ์” คณะที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ คนใกล้ชิด ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ออกมาปูดว่ามีโรงแรมและสนามกอล์ฟชื่อดัง ใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา รุกที่ดิน ส.ป.ก. นำมาสู่วลี หน้าตัวเมีย” ออกจากปาก เสี่ยหนู” แม้ยังไม่ได้ระบุที่ดินของใคร  แต่เจ้าตัวออกมายืนยันว่า ที่ดินสนามกอล์ฟของครอบครัวได้โฉนดมาอย่างถูกต้อง พร้อมกับโร่แจง นายกฯ อิ๊งค์” ทันที

งานนี้ เสี่ยหนู” ประกาศว่าลงบัญชีแค้นไว้แล้ว จะทบต้นทบดอกเอาคืนแน่  มองว่าประเด็นที่เกิดขึ้นเป็นใบสั่งทางการเมือง 500 ล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่แค่ 100 เปอร์เซ็นต์

สุดท้ายจากนี้ต้องคอยเกาะติดศึกซักฟอกที่ฝ่ายค้านนำโดยพรรคประชาชนจ้องถล่ม “นายกฯอิ๊งค์”กล่องดวงใจของนายใหญ่ว่าพรรคภูมิใจไทยผสมโรงเอาคืนอย่างไร ที่สำคัญคือการปรับ ครม.หลังเสร็จศึกซักฟอกใครจะอยู่หรือไป และ“ศึกเขาใหญ่”ครั้งนี้เป็นสัญญาณร้อนสู่เดดโซนรัฐบาลหรือไม่.