วันที่ 16 ก.พ. นายศิวกร บัวป้อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการประชุมคณะทำงานบริหารจัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 1/2568 ตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม ปี 2567/68 ห้องประชุม 1 ศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยสำนักงานเกษตร และสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ คาดการณ์การผลิตผลิตผลทางการเกษตร ได้แก่ ข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ลำไย และมะม่วง จะมีปริมาณ 1,111,774 ตัน ที่ประชุมได้มีการรายงานผลการบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ได้แก่ ด้านพลังงานทดแทน อัดก้อนขาย ไถกลบ ปุ๋ยหมัก ย่อยสลายตามธรรมชาติ อาหารสัตว์ในพื้นที่ วัสดุคลุมแปลง การเพาะเห็ด เป็นต้น
สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการตามมาตรการประกาศของกระทรวงเกษตรฯ ว่าด้วย “การป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ภาคการเกษตร” เกษตรกรเกิดความตระหนักและตื่นตัวปฏิบัติตาม จากการที่รัฐบาลสั่งคุมเข้มห้ามเผาในพื้นที่เกษตรกรรม เพื่อลดปัญหาวิกฤตฝุ่น PM2.5 ที่คุกคามสุขภาพประชาชนและสิ่งแวดล้อมเพื่อลดปัญหามลพิษทางอากาศอย่างยั่งยืน หากพบพื้นที่มีร่องรอยการเผา จะถูกตัดสิทธิ์เข้าร่วมโครงการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพทางการเกษตรทันที ได้แก่ เกษตรกรที่เคยมีประวัติการเผาจะถูกตัดสิทธิ์จากโครงการสนับสนุนของกระทรวงโดยไม่มีข้อยกเว้น โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบร่องรอยการเผา (Burn Scar) และบูรณาการข้อมูลกับสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรฯ เพื่อเอาผิดผู้กระทำผิด กำหนดช่วงเวลาห้ามเผาตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 พฤษภาคม 2567 เพื่อควบคุมสถานการณ์ฝุ่นพิษ ซึ่งคณะกรรมการหมู่บ้านและหน่วยงานท้องถิ่นจะต้องเข้มงวดตรวจสอบพื้นที่ต้องสงสัย พร้อมรายงานต่อหน่วยงานกลางทันที แต่มาตรการนี้จะไม่รวมพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติกระทบพื้นที่เกษตร
นอกจากนี้ได้มีการจดแจ้งสถานที่ตั้งจุดโม่ข้าวโพด และการจัดการเศษวัสดุหลังการโม่ข้าวโพด เพื่อให้เกิดการดำเนินการใช้หลักเกณฑ์มาตรฐานเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันเพื่อไม่ให้เหตุเพลิงไหม้ในพื้นที่จุดโม่ข้าวโพด พร้อมทั้งได้มอบแนวทางในการบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร โดยการใช้นวัตกรรมการบริหารจัดการฯ ให้มีประสิทธิภาพ การบูรณาการร่วมกับภาคเอกชนในการจัดการศูนย์รับซื้อวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ตลอดจนหารือแนวทางอื่นๆ เพื่อให้จัดการวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นไปตามเป้าหมายต่อไป