สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร ระงับการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนให้แก่โรงเรียน และมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งใดก็ตาม ซึ่งบังคับให้นักเรียนและนักศึกษา ตลอดจนบุคลากรของสถานศึกษาแห่งนั้น ต้องรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19


อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันไม่มีรัฐใดในสหรัฐที่มีกฎหมาย หรือข้อบังคับว่า นักเรียนในระบบการศึกษาภาคบังคับ ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขณะที่มีวิทยาลัยเพียง 15 แห่งในสหรัฐเท่านั้น ซึ่งยังคงมีกฎระเบียบดังกล่าว ตามการสำรวจเมื่อปลายปี 2567 จึงยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า คำสั่งของทรัมป์จะส่งผลกระทบมากน้อยเพียงใด


การลงนามในคำสั่งของทรัมป์ในเรื่องนี้ เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังนายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รับตำแหน่ง รมว.สาธารณสุขของสหรัฐ อย่างเป็นทางการ หลังได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา


ทั้งนี้ เคนเนดีให้คำมั่นเกี่ยวกับ “การปฏิรูป” กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐ และยืนยันว่า “ไม่ใช่ผู้ที่มีแนวคิดต่อต้านวัคซีน” แต่เชื่อมั่นว่า ก่อนการนำวัคซีนออกมาใช้งานจริง ไม่ว่าเพื่อป้องกันโรคใดก็ตาม ควรมีการตรวจสอบ วิจัย และทดลองอย่างละเอียด และการรับการฉีดวัคซีน “เป็นสิทธิส่วนบุคคล”.

เครดิตภาพ : AFP