สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน พบหารือกับนายเจ.ดี.แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ นอกรอบการประชุมความมั่นคงมิวนิก (เอ็มเอสซี) ที่เมืองมิวนิก ทางตอนใต้ของเยอรมนี


ทั้งนี้ แวนซ์กล่าวหลังเสร็จสิ้นการหารือ ว่าสหรัฐต้องการให้ยูเครนมีสันติภาพที่ยั่งยืนและยาวนาน ไม่ใช่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นอีก ภายในอีกไม่กี่ปีหลังจากนั้น ส่วนบรรยากาศของการสนทนาเป็นไปด้วยดี และเชื่อว่า น่าจะมีการพบหารือร่วมกันอีกในอนาคต


ขณะที่เซเลนสกีกล่าวว่า การพบหารือกับรองผู้นำสหรัฐเป็นไปด้วยดี โดยเป็นการพบกันครั้งแรก เนื่องจากแวนซ์เพิ่งรับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา และเชื่อว่า “จะไม่ใช่การพบกันครั้งสุดท้าย”

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน พบหารือกับนายเจ.ดี.แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ระหว่างการประชุมความมั่นคงมิวนิก ที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี


ด้านแหล่งข่าวในรัฐบาลวอชิงตันกล่าวว่า ผู้นำยูเครนและผู้แทนของฝ่ายยุโรป จะมีส่วนร่วมกับการหารือสันติภาพยูเครนในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่ยุโรปและยูเครนแสดงความกังวลออกมามากขึ้น นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ยืนยันว่าได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียแล้ว และจะมีการหารือแบบพบหน้ากันในอีกไม่นานนี้


อย่างไรก็ตาม ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกของแวนซ์ บนเวทีเอ็มเอสซี รองผู้นำสหรัฐแทบไม่กล่าวถึงสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งกำลังจะยืดเยื้อครบ 3 ปี แต่กล่าวว่า ยุโรปกำลังเผชิญกับ “ภัยคุกคามจากภายใน” ทั้งจากปัญหาผู้อพยพที่เรื้อรัง และการจัดการเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งเป็นเพราะรัฐบาลของนานาประเทศในยุโรป เจตนามองข้ามความต้องการของประชาชน ที่ต้องการให้ภาครัฐแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ทำให้ยุโรปกำลังสูญเสีย “คุณค่าของตัวเอง”


นางคาจา คัลลัส หัวหน้าผู้แทนฝ่ายนโยายต่างประเทศของอียู กล่าวว่า รองผู้นำสหรัฐ “ดูถูก” ยุโรป และสุนทรพจน์ทั้งหมดที่กล่าวว่า “เป็นการชวนทะเลาะ” ทั้งที่นานาประเทศในภูมิภาคแห่งนี้ เป็นมิตรกับอเมริกามาโดยตลอด.

เครดิตภาพ : AFP