เมื่อวันที่ 14 ก.พ. เวลา 15.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ถูกตรวจสอบที่ดินสนามกอล์ฟ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังเกิดเหตุการณ์ที่ประชุมร่วมรัฐสภาล่ม ว่า ถ้าเอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง แล้วมาหาเรื่องกันในเรื่องส่วนตัว เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ตนไม่กังวลหรือเดือดร้อนใดๆ เนื่องจากเป็นคนที่มีความระวังมากที่สุดอยู่แล้ว เวลาครอบครัวจะไปลงทุนอะไรดูหมด ยกตัวอย่างว่า การซื้อที่ดิน ครอบครัวของตนซื้อโฉนดอย่างเดียว ไม่เคยมัดจำ เพราะกลัวหากมัดจำแล้วเจ้าของที่ดินตาย แล้วจะไปเอาเงินที่ไหนคืน ส่วนที่ดินที่เขาพยายามจะเอามาเล่นเป็นประเด็นนั้น ที่จริงเป็นซื้อโฉนด ซึ่งโฉนดที่ดินดังกล่าว เปลี่ยนมือมา 6-7 มือแล้ว หากออกโฉนดไม่ถูก ก็ไปว่ากัน หากจะเพิกถอนโฉนด ต้องมีการจ่ายเงินให้ตนมา ก็แค่นั้นเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นเรื่องการเมือง จะทำให้เกิดความบาดหมางกันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ถ้ามันทำกันขนาดนี้ ถ้าบอกขอบคุณนะที่ทำให้คงใช่ที่ ผมลงบัญชีไว้แล้ว” ต่อข้อถามว่า ที่บอกว่ามีการลงบัญชีไว้ คือ การรอเอาคืนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่เป็นไร ไม่รู้เมื่อไหร่ ดอกทบต้น” เมื่อถามอีกว่าคิดดอกเบี้ยแพงหรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า “เดี๋ยวนี้ดอกถูก”
เมื่อถามว่าที่ดินดังกล่าว เป็นที่ดินของ น.ค.3 และสุจริตใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า สุจริตคือ ไปซื้อจากชาวบ้าน เขามีโฉนด มีเอกสารสิทธิ และมีการไปโอนที่กรมที่ดิน เก็บค่าธรรมเนียมการโอน ออกโฉนด โดยต้องมีการพิมพ์ชื่อเจ้าของใหม่เข้าไป มีการประทับว่าใครเป็นเจ้าพนักงานผู้โอน ดังนั้น เป็นการซื้อขายโดยบริสุทธิ์ ทั้งนี้ โฉนดใบนั้นมีคนบอกว่า 60 ปีที่แล้ว มีการออกโฉนดที่ไม่ถูกต้องก็ต้องไปตามกับคนที่ออกเมื่อ 60 ปีที่แล้ว ถ้าตามได้แล้วเขาบอกว่าผิด กรมที่ดินก็ต้องจ่ายค่าเสียหายมาในราคาตลาด ถ้าหาราคาตลาดไม่ได้ต้องใช้ราคาประเมิน เพราะเดี๋ยวนี้ที่ดินแถวนั้น ซื้อขายเปลี่ยนมือกันทุกวันอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ สงสัยว่าที่นายอนุทิน ระบุในการให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงเช้า ว่า หน้าตัวเมีย หมายถึงนายธนดลใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะในลำคอ “หึหึ” แต่ไม่ตอบคำถาม
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า นายกฯ ได้สอบถามถึงกรณีปัญหาที่ดินดังกล่าว ซึ่งตนได้อธิบายไปทั้งหมดแล้ว ส่วนจะต้องเคลียร์ใจกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ในงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น เราไม่รู้ใครทำ ไปถามใครก็ไม่มีใครรับหรอก
ผู้สื่อข่าวถามว่า แม้ว่าจะยืนยันว่าการได้มาซึ่งที่ดินนั้นถูกต้อง แต่มีคนพยายามจะนำเรื่องนี้ไปเป็นประเด็น นายอนุทิน กล่าวว่า มันเป็นตั้งแต่สมัยที่พ่อของตนเป็น รมว.มหาดไทย แล้ว ซึ่งมีคณะกรรมาธิการไปตรวจหมดแล้ว ไม่รู้กี่รอบ พอมาเป็นรัฐบาลเมื่อใด ก็มีคนไปตรวจทุกที เมื่อถามว่าคนที่เปิดเผยเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าจะทำงานในกระทรวงเกษตรฯ นายอนุทิน ย้อนถามกลับว่า “ทำไมถึงมาเปิดตอนนี้ อย่างที่บอกไม่เป็นไร หากเปิดมาแล้วก็ทำให้จบ คนที่เพิกถอนคือกรมที่ดิน คิดว่าคงไม่มีใครมากลั่นแกล้งตนในกระทรวงมหาดไทย” เมื่อถามว่า อยากจะฝากอะไรไปถึงคนที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายอนุทิน ย้อนถามกลับว่า ทำไมต้องบอก
เมื่อถามว่า นายธนดลต้องการให้กรมที่ดินลงพื้นที่เพื่อทำงานร่วมกันนั้น จะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จะสั่งลอยๆ อย่างนี้ไม่ได้หรอก ต้องทำให้เป็นทางการ อยู่ดีๆ จะไปสั่งผ่านทีวีไม่ได้ ต้องทำเรื่องมา ทั้งนี้ อธิบดีกรมที่ดินกำลังรอตนอยู่ เพราะคนเพิกถอนคือ คนที่ออกโฉนด โอนโฉนด ตีความโฉนด คือ กรมที่ดิน โดยกรมที่ดินจะต้องออกมาปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ขนาดรองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ยังโดนแบบนี้ ประชาชนทั่วไปคนธรรมดา จะไปสู้กับเขาได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่ตนเคยให้นโยบายกับกรมที่ดินเอาไว้ ว่าต่อไปนี้หากโฉนดใครผิดหรือถูก หากออกโดยกรมที่ดิน หรือคู่กรณีคือกรมที่ดิน ถ้าใครจะสู้ ต้องสู้กับกรมที่ดิน เพราะคนที่ถือสิทธิ เขาเสียค่าธรรมเนียมไปแล้ว เมื่อเก็บค่าธรรมเนียมไปแล้ว ต้องปกป้องผลประโยชน์ของเขา
เมื่อถามย้ำว่า เป็นใบสั่งทางการเมืองร้อยเปอร์เซ็นต์ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “500 ล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ 100 เปอร์เซ็นต์”
เมื่อถามว่า เห็นว่าในพื้นที่ดังกล่าวมีผู้ครอบครองหลายคน นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ว่ากันไป ถ้าเกิดใครไปได้ที่ดินมาโดยที่ไม่มีโฉนด แล้วไปออกโฉนดหลังได้ที่ดินเมื่อปีที่แล้ว อันนี้ถึงเข้าข่ายขี้โกง แต่ถ้าไปซื้อโฉนดจากตาสีตาสาย ตามียายมา เขามีโฉนดอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ที่ซื้อ บิดามารดาเขาตายหมดแล้ว ลูกหลานขายแบ่งเงินกัน
ต่อข้อถามว่าที่ดินดังกล่าวเหมือนจะมีกลุ่มโบนันซ่าอยู่ด้วย จะต้องมีการตรวจสอบทั้งหมดหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใครจะตรวจสอบก็ต้องไปตั้งเรื่องมา จึงจะมีการตรวจสอบ ตอนนี้ไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน เพราะตนไม่ให้มีการปักธง ไม่มีบอกว่าต้องเอาตรงนี้ให้ได้ ถูกเป็นผิด ไม่มี มีแต่ความยุติธรรม แต่ต้องปกป้องผู้ที่ซื้อมาโดยสุจริต
เมื่อถามว่ารู้สึกเหมือนว่าขณะนี้มีขบวนการลดอำนาจต่อรองของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เคยต่อรอง เมื่อถามอีกว่า มีการไปยื่นให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบที่มา สว. ในข้อหาอั้งยี่ รวมถึงนายอนุทินมาถูกตรวจสอบเรื่องที่ดินสนามกอล์ฟของครอบครัวในช่วงนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า การไปตั้งข้อหาตรงนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับตนเอง
เมื่อถามย้ำว่า มีการมองว่า สว. เป็นเครือข่ายสีน้ำเงิน จึงต้องการลดอำนาจต่อรองลง นายอนุทิน กล่าวว่า ใครทำอะไรก็ต้องรับจากผลที่เกิดขึ้น จากการกระทำของตัวเอง เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยไม่หมูใช่หรือไม่ อนุทินยิ้มและตอบว่า “ภูมิใจไทย หนู” พร้อมทั้งยืนยันว่า ตนไม่อึดอัด เพราะทำงานกับนายกฯ และให้ความร่วมมือกับรัฐมนตรีทั้งหลาย ไม่ได้ไปเป็นลูกน้องเขา แต่เป็นลูกน้องนายกฯ ในความเป็นรัฐบาล