ส่วนหนึ่งต้องยอมรับเป็นเพราะ “เซิร์ฟเวอร์” ตั้งอยู่ต่างแดน เมื่อถูกจับ-ถูกปิด ก็เปิดใหม่ ขณะเดียวกัน “คนร้าย” ไม่หยุดพัฒนาปรับเปลี่ยนรูปแบบ-กลวิธีใหม่ที่ยากต่อการจับกุมมากขึ้น
หนึ่งตัวอย่างอาชญากรรมออนไลน์ที่ซ่อนกลวิธีใหม่ และเพิ่งถูกทลายโดย กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 พล.ต.ต.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ ผบก.อก.บช.สอท. บุกไปเปิดปฏิบัติการ “ล่าปิดเกาะ ทลายทุนเทาข้ามชาติ” จับไต้หวันเทา
กระทั่งขยายเห็นภาพ “กลเม็ด” ใหม่ ปกปิดเส้นเงินเว็บพนัน ด้วยการสร้างระบบ “Payment” ใช้เป็นเส้นทางการเงินรูปแบบใหม่ที่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีม้าอัตโนมัติได้รวดเร็วในคราวเดียว
“ทีมข่าวอาชญากรรม” สอบถามเพิ่มเติมเบื้องหลังปฏิบัติการครั้งนี้กับ “ผู้กำกับแก้ว” พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.1 บก.สอท.5 ชี้จุดเริ่มต้นมาจากการเข้าไปแฝงตัวเล่นเว็บพนันของสายตรวจไซเบอร์ในหลายเว็บไซต์ เพื่อหาข้อมูลบัญชีที่กลุ่มเว็บพนันใช้กัน กระทั่งสังเกตพบความผิดปกติที่แตกต่างไปจากเดิม
เนื่องจากก่อนหน้านี้พบว่าเว็บพนันออนไลน์เหล่านี้มักใช้บัญชีม้า ทำหน้าที่โอนเงินไปทีละบัญชีเป็นทอด แต่ขบวนการนี้มีการเขียนระบบเป็น “แอปพลิเคชัน” และให้ผู้เล่นเติมเงินผ่านแอปที่สร้างขึ้นมา (Payment Gateway) จากนั้นระบบจะโอนเงินไปยังบัญชีที่ตั้งไว้อัตโนมัติ ทำให้เว็บพนันออนไลน์สามารถโอนเงินออกไปได้ทันทีครั้งละหลาย 10 บัญชี โดยใช้เวลาเพียงไม่นาน
พ.ต.อ.กฤษดา ระบุ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงได้แกะรอย กระทั่งพบว่าแหล่งกบดานเป็นบ้านหรู อ.เกาะแก้ว จ.ภูเก็ต ของเครือข่ายเว็บพนันกลุ่มนี้ จึงนำกำลังเข้าตรวจค้น ก่อนจับกุมชายชาวไต้หวัน 3 คน คนไทย 3 คน ซึ่งทำหน้าที่เป็นทีมดูแลระบบการเงิน และปกปิดเส้นทางการเงินให้กับเว็บพนันหลายแห่ง พร้อมยึดของกลาง โทรศัพท์มือถือ 119 เครื่อง, คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร 19 เล่ม, ยาอี 6 เม็ด และเคตามีน 74.5 กรัม
จากการสอบปากคำหนึ่งในผู้ต้องหาชาวไต้หวันให้ข้อมูลว่า ได้สร้างระบบดังกล่าวขึ้น เพื่อเอื้อให้เจ้าของเว็บพนันไม่ต้องจัดหาบัญชีม้าเอง และยังทำให้เว็บพนันสามารถโอนเงินออกไปได้ทันที ครั้งละหลาย 10 บัญชี แตกต่างจากระบบบัญชีม้ารูปแบบเดิมที่เว็บพนันจะโอนต่อกันทีละบัญชีเป็นทอด ๆ หากโปรแกรมแจ้งเตือนให้สแกนหน้ายืนยันตัวตนบัญชีธนาคาร ก็จะให้คนไทยที่เป็นบัญชีม้ามาสแกนหน้าให้ ทั้งนี้ จะคอยย้ายสถานที่อยู่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ยากต่อการติดตาม
อย่างไรก็ตาม หากระบบดังกล่าวถูกนำไปใช้ในขบวนการอาชญากรรมออนไลน์อื่น เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือการหลอกลงทุนต่าง ๆ ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับตำรวจหรือไม่ พ.ต.อ.กฤษดา เผยเบื้องต้นแผนประทุษกรรมลักษณะนี้ ยังไม่พบการนำมาใช้ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งส่วนใหญ่พบเส้นทางการเงินมักใช้การโอนไปยังบัญชีม้าบุคคลที่มีการจัดเตรียมไว้ ก่อนโอนต่อไปยังรูปแบบคริปโตเคอร์เรนซี หรือสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า
นอกจากนี้ ปัจจุบันพบว่าคนร้ายได้มีใช้บัญชีม้า “นิติบุคคล” โดยจ้างวานบุคคลให้ไปจดทะเบียนบริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วน จากนั้นจะนำหลักฐานการจดทะเบียนไปเปิดบัญชีในรูปแบบนิติบุคคล
“เมื่อเหยื่อตรวจสอบบัญชีปลายทางพบเป็นบัญชีบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนจริง จึงเชื่อถือ สุดท้ายหลงเชื่อโอนเงิน”
อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าขณะนี้ตำรวจไซเบอร์มีการเฝ้าระวังประเด็นดังกล่าว และจะขยายผลเพื่อป้องกันปราบปราม ยืนยันว่าแผนประทุษกรรมที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องยากและไม่ซับซ้อนในการสืบสวน แต่สิ่งสำคัญในการสกัดกั้นภัยออนไลน์ได้ดีที่สุดคือ ประชาชนต้องมีความรู้ และมีสติ ก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อภัยออนไลน์.
ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน