ร้อนแรงไม่มีพักทีเดียว สำหรับเรื่องราวของ “ดีเจแมน” หรือ “นายพัฒนพล กุญชร” ที่ได้ออกมาเปิดใจแบบหมดเปลือกผ่านรายการ แฉ เกี่ยวกับชีวิตที่เปลี่ยนไปหลังได้รับอิสรภาพอีกครั้ง อีกทั้งมีช่วงหนึ่งของรายการ ดีเจแมน เผยเรื่องที่แค้นที่สุดในช่วงนั้นว่า “ยอมรับว่าเรื่องเดียวที่เราแค้นสุดๆ คือ เราเจอคนในวงการที่เป็นข่าวดัง มาเรียกเงินวิ่งเต้นช่วยคดี มาเรียกตนและใบเตย คนละ 7 ล้านบาท ทั้งที่เราไม่มีอะไรเหลือแล้ว แต่ทุกวันนี้มันยังลอยนวลอยู่เลย ทำไมมันทำแบบนี้ได้ แต่เราต้องขายของทุกอย่าง เพื่อต่อลมหายใจชีวิต” จึงกลายเป็นเรื่องราวที่ชาวเน็ตสงสัยว่า ดาราดังที่ดีเจแมนพูดถึงคือใคร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ในรายการแฉ ช่อง GMM25 ภรรยาของดีเจแมนอย่าง ใบเตย อาร์สยาม หรือ สุธีวัน ทวีสิน ก็ได้มาร่วมพูดคุยในรายการ พร้อมเล่าเรื่องราวให้ฟังว่า

“ตอนออกมาจากเรือนจำแล้วได้โอกาสไปร้องเพลงทำงาน แต่ต้องใส่กำไลอีเอ็ม จริงๆเราไม่ได้มองตรงนี้เลย แค่เราได้เจอลูก ไม่ว่าจะใส่อะไร ที่คอ ที่แขนหรืออะไร หนูไม่แคร์เลย หนูขอแค่ได้ออกมา มันต้องเข้มแข็ง วันนั้นพลังของความเป็นแม่ล้วนๆ เรื่องของแบรนด์เนมตอนดำเนินคดีก็มีเอาไปขายบ้าง เพื่อเอามาให้คนอื่นดำเนินชีวิต เพราะตอนนั้นให้ลุกซ์เอาไปขาย เพื่อดูแลคนในครอบครัว เพื่อปากท้อง สำหรับเรื่องที่ได้ประกันตัว เป็นครั้งที่ 4 ที่เรายื่นขอไป ใบเตยสู้มาก ณ วันนี้สู้ข้างในมีหนูคนเดียว ข้างนอกมีน้องลุกซ์อยู่คนเดียว หนูเจอการพลัดพรากไม่คิดว่าชีวิตจะเจออะไรแบบนี้ ทั้งจากเป็นและจากตาย หนูบอกตัวเองตลอด เราเป็นคนดี อย่าลืมสิ่งที่ถูกต้องของเรา อย่าลืมสิ่งที่เรากระทำมาว่าเราเป็นคนดีจริงๆ เราซื่อสัตย์ต่อตนเองและซื่อสัตย์ต่อขั้นตอนของกฎหมายด้วย“

ใบเตย เล่าต่อว่า ”สิ่งที่ได้กลับมา เรามีธรรมะในใจ เรานิ่งขึ้น พูดน้อยลง อาจจะเป็นเอฟเฟ็กซ์ของยา เพราะเราเป็นผู้ป่วยจิตเวช เป็นตั้งแต่เข้าไปเรือนจำ ตอนนี้กินอยู่ เป็นหนัก ขนาดที่อยู่คนเดียวไม่ได้ หนักสุดคิดฆ่าตัวตายตลอด ทุกวันนี้กินยาเยอะมาก ตกคืนละ 6 เม็ด ต้านเศร้า แก้เศร้าไม่ให้ร้องไห้ หนูได้รับผลกระทบทางจิตใจเยอะ เราเป็นคนมีชื่อเสียงเจอมากกว่าคนปกติ มันยิ่งกว่าช็อก ตอนที่อยู่ในนั้นไม่รู้อะไรเลย“

ลุกซ์ ชาญวิทย์ น้องชายใบเตย เผยว่า “ตอนที่พี่เตยและพี่แมนอยู่ในเรือนจำ หนูไม่พูดอะไรมาก พยายามมองผ่านไป บอกว่าไม่เป็นไร หนูดูแลหลานให้ดีที่สุด ส่วนการขายแบรนด์เนมตอนที่พี่แมนพี่เตยอยู่ในเรือนจำ เราก็เอาไปไลฟ์สดขาย เพื่อเลี้ยงปากท้องครอบครัวเรา ก็อายนะ แต่ต้องทำเพราะเราก็ต้องทำมาหากิน ซึ่งของก็ไปหมดแค่ไม่กี่ชิ้นที่รักๆ“

ขอขอบคุณรายการแฉ