เมื่อวันที่ 13 ก.พ. นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำคณะ ลงพื้นที่สยามสแควร์ เขตปทุมวัน เพื่อตรวจวัดระดับค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 และมอบหน้ากากกันฝุ่นแก่ประชาชน หลังจากมีรายงานปริมาณฝุ่นพีเอ็ม 2.5 พุ่งสูงอีกครั้ง

โดยนายสุชัชวีร์ กล่าวว่า จากการวัดด้วยเครื่องวัดคุณภาพสูงที่บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส พบว่าค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 สูงถึง 300 ไมโครกรัม ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก นอกจากนี้ ระหว่างการเดินแจกหน้ากากแก่ประชาชนนั้น พบว่าส่วนใหญ่ไม่ได้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น ขณะที่ผู้สวมใส่หน้ากาก เป็นหน้ากากอนามัยธรรมดา ซึ่งไม่สามารถป้องกันฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ได้ จึงให้คำแนะนำและข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายจากฝุ่นพีเอ็ม 2.5 แก่ประชาชน พร้อมกับแจกหน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายสุชัชวีร์ กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ในกรุงเทพฯ เป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกภาคส่วนต้องลงมือทำอย่างจริงจัง แต่ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงยังไม่ลงมือแก้ไขอย่างจริงจัง ตนจึงมาแจกหน้ากากป้องกันฝุ่นให้ประชาชน ซึ่งอาจไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด แต่อย่างน้อยเพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่ารุนแรงขนาดไหน นอกจากนี้ ตนได้ผลักดันแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ในเชิงนโยบายมาตลอด ทั้งเรื่องของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อากาศสะอาด ที่กำลังพิจารณาอยู่ในชั้นกรรมาธิการ หรือแนวทางที่นำเสนอมาตลอด คือการกำหนดเขตมลพิษต่ำ เพื่อลดควันดำในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน และได้อากาศสะอาดคืนมา

“เขตมลพิษต่ำเป็นการประกาศพื้นที่ควบคุมมลพิษอย่างจริงจัง เสมือนพื้นที่สนามรบ ที่เราต้องขับไล่ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ยึดคืนอากาศสะอาดกลับคืนมา เขตมลพิษต่ำพิสูจน์ให้เห็นในหลายประเทศแล้วว่าสามารถลดปัญหาฝุ่นพิษได้จริง ในวันนี้การแจกหน้ากากป้องกันฝุ่น อาจจะไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ก็จะทำให้ทุกคนได้ตระหนักถึงปัญหานี้ ด้วยความห่วงใยจากผมและพรรคประชาธิปัตย์จึงเกิดกิจกรรมนี้ขึ้น” นายสุชัชวีร์ กล่าว