สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ว่านางพาเมลา บอนได รมว.ยุติธรรมสหรัฐ แถลงว่า รัฐนิวยอร์กเลือกที่จะให้ความสำคัญกับคนต่างด้าวซึ่งเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย มากกว่าพลเมืองอเมริกันซึ่งเป็นผู้อยู่อาศัยอย่างถูกต้อง “หากคุณไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐบาลกลาง เราจะดำเนินคดีกับคุณ”

ขณะเดียวกัน เธอเตือนด้วยว่า “รัฐที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐบาลกลาง จะเผชิญกับมาตรการทางกฎหมายแบบเดียวกันนี้”

ทั้งนี้ คำฟ้องของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุว่า เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในรัฐนิวยอร์กไม่ได้รับอนุญาต ให้ตรวจสอบสถานะการพำนักของผู้ขับขี่ยานยนต์ที่ฝ่าฝืนกฎจราจร “หากพวกเขาเรียกตรวจใครบางคน และไม่สามารถเข้าถึงประวัติของพวกเขาได้ พวกเขาจะไม่มีทางรู้เลยว่า กำลังติดต่อกับใครอยู่”

มากไปกว่านั้น สำนักงานด้านยานยนต์ของรัฐนิวยอร์กยังมี “บทบัญญัติการเปิดเผยข้อมูล” เพื่อแจ้งให้คนต่างด้าวที่ผิดกฎหมายทุกคนทราบ เมื่อหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลางต้องการข้อมูลของพวกเขา

“มันขัดต่อรัฐธรรมนูญ และนั่นคือเหตุผลที่เรายื่นฟ้อง” บอนไดย้ำ พร้อมทั้งเสริมว่า “คนต่างด้าวผิดกฎหมายหลายล้านคนที่เคยมีประวัติรุนแรง พาหันหลั่งไหลเข้ามาในชุมชนของเรา นำความรุนแรงและยาเสพติดที่ร้ายแรงมาด้วย”

ก่อนหน้านั้น ทรัมป์ยืนกรานว่า ผู้อพยพผิดกฎหมาย ซึ่งหมายถึงผู้ที่ไม่มีเอกสาร “มีส่วนรับผิดชอบต่ออาชญากรรมมากกว่า” แม้ผลการวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่า พลเมืองสหรัฐก่ออาชญากรรมมากกว่า เมื่อเทียบตามสัดส่วนประชากร.

เครดิตภาพ : AFP