กลายเป็นเรื่องราวดราม่าใหญ่โตสนั่นโซเชียล หลังจาก “เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข” พระเอกหนุ่ม ได้ไลฟ์สดผ่านติ๊กต็อกกับภรรยาสาว “โฟม เบญจมาศ” แต่ดูเหมือนว่าความช็อตฟีลของเธอจะเริ่มกลายเป็นดราม่าเบาๆ เนื่องจากมีแฟนคลับได้นำคลิปวิดีโอช่วงหนึ่งที่โฟมไลฟ์กับเจมส์ ซึ่งในไลฟ์ดังกล่าว เจมส์อยากเล่นกีตาร์ให้โฟมและแฟนๆ ฟัง แต่สาวโฟมกลับตอบช็อตฟีลว่า ขี้เกียจฟัง ไม่ชอบ และไล่ให้เจมส์ไปเปิดไลฟ์ช่องติ๊กต็อกของตัวเอง

ล่าสุดในงานฉลองเปิดร้าน POP MART หนุ่มเจมส์ ก็ได้เปิดใจเคลียร์ดราม่าที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมอัปเดตชีวิตรักหวานฉ่ำหลังแต่งงาน

เจมส์ เผยว่า “สำหรับเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้น โฟมก็โดนเยอะเหมือนกัน ที่แฟนคลับบอกว่าไม่ให้เกียรติเรา แต่ผมก็มีโอกาสได้เข้าไปอ่านคอมเมนต์บ้าง แต่จริงๆ ผมไม่ได้รู้สึกว่าเขาไม่ให้เกียรติผมหรือข่มผมเลย เพราะผมชอบเข้าไปกวนเขา ปกติเขาก็เป็นแบบนี้ตลอดเวลา แต่ผมชอบเข้าไปกวนเขา ให้เขามีอารมณ์โมโห เพราะผมมองว่าน่ารักดี แต่ปกติเขาไม่ได้มาช็อตตลอดเวลา ซึ่งพอหลังจากเกิดเรื่อง ผมก็ถามเขาว่าเป็นยังไงบ้าง เขาก็ตอบว่าเซ็งๆ แหละ ก็ไม่ได้ชอบ เราก็พยายามคุยกับเขาดู ด้วยความที่อยู่ในโลกโซเชียลมีเดีย มันมีหลายคนที่มุมมองต่างกัน แล้วคลิป 10 วิ มันอาจจะอธิบายความรักของคู่เราได้ไม่ทั้งหมด ว่าพฤติกรรมมันเป็นยังไง ซึ่งเหตุการณ์นั้นที่หลายคนมองว่าหน้าผมเจื่อน จริงๆ ผมก็หาเรื่องแหละ ปกติอยู่กลุ่มเพื่อนมันจะมีบางเรื่องที่เขานู้นนี่นั่น ผมก็จะไปแหย่ๆ เขา แล้วทำหน้าเจื่อน เหมือนเราไปเอ็นเตอร์เทนแหละ ซึ่งเราก็รู้แล้วว่า พอเข้าไปในทำนองนี้เราก็จะต้องโดน พอเราเข้าไปอ่านคอมเมนต์แล้วภรรยาเราโดนแบบนี้ คือจริงๆ ผมก็เข้าใจทุกคนนะ ด้วยความคลิปมันสั้นมาก แล้วมันเทียบไม่ได้กับสิ่งที่เรารู้จักกัน เข้าใจกันทุกวันคือเรารู้จังหวะกัน คือเราแค่เล่นกัน เราก็เลยคิดว่าเค้าก็อาจจะมองในมุมที่ต่างกันไป แต่สิ่งที่ผมห่วงที่สุดก็เป็นแค่ความรู้สึกเขา ถามว่าโฟมนอยด์จริงจังไหม ก็ไม่ได้มาก เขาบอกเองว่าเมื่อก่อนเขาเจอหนักกว่านี้ แต่โฟมจะชินไหม อันนี้ผมว่าคงไม่มีใครชินหรอกกับเรื่องแบบนี้ แต่ว่าเขาก็สามารถเข้าใจได้มากขึ้น ซึ่งการใช้ชีวิตหลังจากนี้ก็ไม่ยากหรอก แต่ว่าพอสุดท้ายแล้ว ช่วงแรกที่ทุกคนได้เห็นมุมคู่ของผม แต่เดี๋ยวอีกสักพักหนึ่ง พอเห็นมุมอื่นๆ เดี๋ยวมันก็จะค่อยอ๋อกันไปเอง แต่แค่ว่าช่วงนี้มันยังใหม่มาก ยังไม่ได้เข้าใจเราร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่ามันมีพฤติกรรมแบบไหนบ้าง ว่าผมกวนให้เขายังไง แล้วเขาเป็นยังไง ซึ่งเราก็จะไม่ได้ปิดไลฟ์ไปเลย แต่ว่าช่วงนี้โฟมเขาค่อนข้างยุ่ง เดี๋ยวกลับมาทำตัวปกติแล้ว ส่วนเรื่องในการระวังมากขึ้นไหมหลังจากนี้ในการไลฟ์ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน คือเรายังไม่ได้คุยกันว่าจะระวังมากขึ้นไหม ก็อยากจะบอกแฟนๆ ว่า ฝากติดตามไลฟ์ก็ได้ (หัวเราะ) ก็ยืนยันว่ายังมีไลฟ์ เรียกว่าฝากติดตามกัน เผื่อมีโมเมนต์อื่นๆ อาจจะได้เข้าใจกันมากขึ้น ซึ่งตอนนี้เศร้าเลย ผมก็ไม่ได้แหย่อีกแล้ว ส่วนคอมเมนต์ที่บอกว่าถ้าเกิดไม่รักก็เอาคืนเรามา จะสวบกันแบบนี้เลยเหรอ (หัวเราะ) ผมไม่กล้าตอบอะไร เพราะว่าเดี๋ยวผมอยู่ยาก ซึ่งแฟนคลับรักเรามาก แล้วแฟนคลับที่ใกล้ชิดกับผม คือเขาก็น่ารักและเขาก็เข้าใจ ซึ่งเขาอาจจะเป็นมุมที่ห่วงความรู้สึกของเรา แต่คือยืนยันได้เลย คือไม่มีอะไร ผมก็สไตล์นี้ คือเป็นคนขี้เล่นแบบบ้าบอ ชอบแอคติ้ง

สำหรับที่พี่ ”เกรท วรินทร“ บอกว่าผมกลัวภรรยา เคารพภรรยา คือมันเป็นการแสดง เราคือพ่อบ้านใจกล้าอยู่แล้ว เอาจริงๆ ก็คือยังโชคดี ที่วันนี้เขาไม่ได้อยู่ตรงนี้ คือไม่งั้นโฟมเขาจะสาธยายความดื้อของผมที่ว่าหัวชนฝา ซึ่งถ้าเกิดเขาอยู่ตรงนี้ ก็อาจจะระแวงนิดหนึ่งว่าเขาจะมาเผาเรื่องอะไรกัน เพราะว่าก็ชะงักติดหลังเยอะพอสมควร ซึ่ง 10 ปีที่ผ่านมา คู่เราก็เคยเป็นสไตล์นี้ ผมว่าเรื่องนี้มันเป็นตัวตนซึ่งกันและกัน คือผมที่นอกจากอยู่ในสื่อหรือคอนเทนท์ คือผมก็จะจะเป็นตัวตนของผม ส่วนเขาก็จะจะเป็นตัวตนของเขา ผมว่าเวย์ของความรัก ควรที่จะเป็นตัวตนของกัน และตัวตนของตัวเอง และเราก็จะอยู่ด้วยกันอย่างยั่งยืนได้

ส่วนเรื่องที่ผมบอกว่าเหนื่อย คือผมว่า ในเรื่องนั้นเขาอาจจะพูดในบริบทที่ว่าเขาอินกับการทำงานที่อยู่เบื้องหลัง เขาเป็นเบื้องหลังทำโปรดักชั่นเฮาส์ คือในงานโปรดักชั่นเฮาส์ของเรามันค่อนข้างกินเวลาเยอะ คือสิ่งที่เขาพูดไปก็คือเขาอาจจะพูดในมุมมองของทีมกล้องทีมไฟ เพราะเขาต้องรอเก็บของต้องไปโหลดของที่ออฟฟิศอีก ที่ขายก็อาจจะเห็นใจในมุมมองของคนอื่นด้วย มันก็เป็นเวลาในการให้กำลังใจของเขา ถามว่าเรากลัวว่าคงจะสูญเสียความเป็นตัวตนไหม ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าคือที่ผมถามเขา เขาบอกว่าเขาก็คงไม่ได้เปลี่ยนอะไรหรอก มันก็ตัวเขาแหละ ผมก็บอกเขาว่า จริงๆ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนก็ได้ เพราะว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ได้ไปทำร้ายใคร ซึ่งเวลาเราแซวเล่นกันคุยเล่นกัน ก็เป็นเรื่องของคนสองคน หลังจากนี้ เขาจะเกร็งไหม อันนี้ไม่รู้ต้องรอดูอาการ ยังไงก็ฝากติดตามไลฟ์เขา ถ้าเกิดว่าเขาเกร็งก็ฝากพิมพ์บอกด้วย ถามว่าเขาจะนอยด์ไหม ผมว่าถ้าถึงขั้นนี้ได้แล้ว ก็คงไม่เดินทางไปถึงการนอยด์แบบนั้นหรอก“

อีกทั้ง หนุ่มเจมส์ได้เผยต่อว่า “ชีวิตหลังแต่งตอนนี้ ก็ยังไม่ค่อยได้ใช้เวลาร่วมกันเท่าไหร่  คือตอนนี้คิวงานแน่นมาก ตอนนี้ทำงานทุกวัน ส่วนเรื่องฮันนีมูนต้องห้ามพูดเรื่องนี้เลย เพราะว่าไม่มีเวลาเลยตอนนี้ แต่ก็ลองคุยกับเขาแล้ว ว่าช่วงนี้โปรเจกต์มันเริ่มใกล้ปิด คือรอปิดแล้วรอโล่งแล้ว เดี๋ยวค่อยตกลงค่อยว่ากัน ถามว่าเขาบ่นไหม เขาเป็นห่วงเรื่องสุขภาพมากกว่า เพราะว่าเรานอนน้อยติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เขาก็เห็นว่ามันโทรมลงจริงๆ ทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งเขาก็ไม่เคยทวงความสวีท เขาเห็นใจ เดี๋ยวเราคงต้องปรับกันใหม่ให้บาลานซ์กัน 

ส่วนวาเลนไทน์ปีนี้ก็หวาน เขาเตรียมเค้กไว้ให้เราแล้ว ถามถึงความพิเศษของปีแรกในวันวาเลนไทน์ฐานะสามีภรรยา ถ้าเอาด้วยความสัตย์จริงคือผมไปทำงาน แต่ผมก็จะพยายามรีบไป แล้วรอดูว่าจะน่ารักไหม“