เมื่อวันที่ 13 ก.พ. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เข้าพบ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บํารุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.นรวัฒน์ คำภิโล รอง ผบก.สอท.4 เพื่อให้ข้อมูลและหลักฐาน ขอให้ตรวจสอบเบอร์โทรฯ สองหมายเลขว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ ซึ่งได้โทรฯ มาหานางปวีณา หวั่นมิจฉาชีพนำเสียง “ปวีณา” สนทนาไปใช้ AI เลียนแบบเสียงหลอกเหยื่อขอรับบริจาค และนำข้อมูลของผู้เสียหายที่ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ เกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ ถูกหลอกในรูปแบบต่างๆ อาทิ หลอกให้ถ่ายภาพโป๊เปลือยข่มขู่แบล็กเมล์ มามอบให้ทาง บช.สอท. ดำเนินการ

นางปวีณา กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ก.พ. ที่ผ่านมา มีเบอร์โทรศัพท์โทรฯ เข้ามาหา 2 เบอร์ ในเวลาไล่เลี่ยกัน เบอร์แรก 06-2 684-09xx โทรฯ มาตอน 10.47 น. แต่ไม่ได้รับสาย จากนั้นก็มีเบอร์ 06-6050-57xx โทรฯ มาเวลา 11.15 น. คนที่โทรฯ เข้ามาเป็นผู้หญิงพูดว่า “สวัสดีคะ ดิฉันโทรฯ มาจากสภ. (ฟังไม่ถนัด ) ใช่คุณปวีณาหรือเปล่าคะ?” โดยถามซ้ำหลายครั้ง ซึ่งก็ตอบไปว่า “ใครต้องการพูดด้วยค่ะ” “คุณต้องการอะไรคะ” ถึง 2 ครั้ง จากนั้นเขาก็วางหูไป ทั้งนี้เชื่อว่าคนที่โทรฯ มาเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเดี๋ยวนี้มีการพัฒนารูปแบบนอกจากหลอกเงินเหยื่อแล้ว ยังมีการใช้เสียงคนไปทำ AI เลียนแบบ เพื่อโทรฯ หลอกเหยื่ออีก จนมีผู้เสียหายจำนวนมาก

ที่ผ่านมา มูลนิธิปวีณาฯ ได้เคยรับเรื่อง 2 เคส เคสแรก เป็นคุณแม่ท่านหนึ่งที่อยู่ จ.ตรัง โทรฯ มาบอกว่าได้โอนเงินให้กับมูลนิธิปวีณาฯ จำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นค่าดำเนินการในการช่วยลูกชายที่ถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา พร้อมกับส่งสลิปการโอนเงิน และใบเสร็จรับเงินปลอมที่ใช้ชื่อมูลนิธิปวีณาฯ มาให้ดู มูลนิธิฯ จึงสอบถามที่มาที่ไปพร้อมกับชี้แจงว่า ในการช่วยเหลือทุกเคสมูลนิธิปวีณาฯ ไม่เคยเรียกรับเงินหรือค่าดำเนินการแต่อย่างใด คุณแม่ท่านนั้นจึงได้รู้ว่าถูกมิจฉาชีพหลอก ส่วนเคสที่ 2 เป็นหนุ่มช่างทำสีรถยนต์ ต้องการหาเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยหนัก ก่อนจะไปเจอแอปเงินกู้ในออนไลน์ โดยมิจฉาชีพหลอกให้แอดไลน์คุยเรื่องกู้เงิน ซึ่งมิจฉาชีพใช้รูปโปรไฟล์ในไลน์เป็นรูป “ปวีณา” และหลอกให้โอนเงินค่าดำเนินการในการกู้เงินไปร่วม 3 หมื่นบาท สุดท้ายก็ไม่ได้เงินไปรักษาแม่ และต้องเสียเงินอีก

นางปวีณา กล่าวเตือนภัย ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพที่แอบอ้างใช้ชื่อ “ปวีณา หงสกุล” หรือ “มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี” ว่าจะมีการช่วยเหลือเงิน ให้กู้เงิน แล้วเรียกเก็บค่าดำเนินการ หรือโทรฯ ไปขอยืมเงิน ขอเงินบริจาค เพราะไม่มีนโยบายโทรศัพท์ไปขอรับบริจาคเงินกับบุคคลใดหรือหน่วยงานใดทั้งสิ้น มูลนิธิปวีณาฯ จะไม่มีการโทรฯ ไปขอเงิน หรือขอเงินบริจาคใครเด็ดขาด

สถิติมูลนิธิปวีณาฯ ประจำปี 2567 (2 ม.ค.-31 ธ.ค.) รับเรื่องราวร้องทุกข์รวมทั้งสิ้น 5,647 ราย เป็นปัญหา ค้าประเวณี 257 ราย ซึ่งผู้เสียหายถูกหลอกค้าประเวณีทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนใหญ่พบการโฆษณาในโซเชียล ขณะที่ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์พุ่งสูงถึง 668 เรื่อง 1.หลอกลงทุน 318 ราย เสียหายกว่า 3 พันล้าน 2.หลอกเป็น call center 64 ราย 3.หลอกถ่ายคลิปโป๊ 105 ราย ช่วงอายุ 11-15 ปี มากสุดถึง 24 ราย ที่น่าตกใจเด็ก 10 ขวบ ก็ถูกหลอกด้วย 4.ถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า 53 ราย 5.ถูกข่มขู่คุกคาม/หมิ่นประมาททางโซเชียล 48 ราย 6.กู้เงินออนไลน์ 4 ราย 7.ถูกหลอกจะหางานทำต่างประเทศ 54 ราย 8.อื่นๆ 22 ราย

ขณะที่ในปี 2568 นี้ มูลนิธิปวีณาฯ รับเรื่องร้องทุกข์ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ 77ราย เดือน ม.ค. 68 จำนวน 64 ราย เดือน ก.พ. 68 (ถึง 13 ก.พ. 68) จำนวน 13 ราย, ค้าประเวณี 21 ราย เดือน ม.ค. 68 จำนวน 8 ราย เดือน ก.พ. 68 (ถึงวันที่ 13 ก.พ. 68) จำนวน 13 ราย

ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ทำการสอบปากคำคุณปวีณา พร้อมกับทำการตรวจสอบเลขหมายว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ ในส่วนของทางข้อมูลที่ทางมูลนิธิได้มอบให้นั้น จะนำไปตรวจสอบเพื่อหาความเชื่อมโยง และเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนต่อไป.