เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ลงพื้นที่จ.สระแก้ว และได้มีการรับฟังข้อคิดเห็นจากหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งมีช่องทางธรรมชาติยาว 165 กิโลเมตร และมีการบูรณาการวางลวดหนามประมาณ 55 กิโลเมตร ที่เหลือยังเป็นช่องทางธรรมชาติ ติดกับเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นจุดล่อแหลมในการหลบหนีเข้าเมือง หน่วยงานความมั่นคงไม่สามารถตรวจการณ์ได้ตลอดเวลา จึงเสนอสร้างกำแพง ซึ่งหลายประเทศทำอยู่ เช่น เม็กซิโก ปิดรั้วรอบขอบชิด ส่งผลให้การตรวจสอบง่ายขึ้น พร้อมติดกล้องวงจรปิด และเครื่องปั่นไฟที่จะส่งสัญญาณแจ้งเตือน จะทำให้เห็นภาพมีใครข้ามไปมา เจ้าหน้าที่ก็จะสะดวกในการปฏิบัติงาน

พล.ต.ธนาธิป กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ นายภูมิธรรม รับข้อมูลมาศึกษา และรัฐบาลอาจมีข้อมูลได้มากกว่านี้ เพื่อมาเสริมให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อพิจารณาแนวทางดำเนินการจะมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ ยังมีการเสนอเรื่องโดรนช่วยในการปฏิบัติงาน

“ยืนยันว่าเป็นเพียงแผนงานของรัฐบาลที่จะนำมาพิจารณา เพื่อหาแนวทางร่วมกันอีกครั้งเรื่องการสร้างกำแพง ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการสร้างกำแพง เพราะปัจจุบันยังเร็วเกินไป และยังต้องศึกษารูปแบบแนวทาง ภายใต้พื้นที่ที่ชัดเจน ที่ต้องไม่ติดพื้นที่ที่ทับซ้อนกัน รวมถึงการวิเคราะห์ผลกระทบของคนทั้งสองประเทศ ซึ่งมีของเอกชนที่ทำไปได้บ้างแล้ว ส่วนเส้นทาง 55  กิโลเมตร ที่จะดำเนินการเป็นช่องทางธรรมชาติ และเป็นจุดล่อแหลม” พล.ต.ธนาธิป กล่าว.