เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณาวาระการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ภายหลังจากที่มติของรัฐสภาไม่เลื่อนญัตติที่เสนอโดย นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ที่ขอให้รัฐสภาลงมติส่งศาลรัฐธรรมนูญ ให้พิจารณาเกี่ยวกับปัญหาหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา มาตรา 210 (2) และมี สว. บางส่วน ได้วอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในห้องประชุมมีความวุ่นวาย หลังจากที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายต่อการแสดงออกของ สว. บางส่วน ว่า ปกติการเข้าหรือออกจากห้องประชุม สามารถทำได้ ทำไมต้องแจ้งเพื่อขออนุญาตกับประธานรัฐสภา อยากให้ซักซ้อมว่าบางคนไม่เข้าใจ และองค์ประชุมหากครบ ยังเดินหน้าได้ ทำให้ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. อภิปรายสำทับเช่นกันต่อการวอล์กเอาต์ เพื่อแสดงความไม่พอใจผลการลงมติที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องพินาศของภาพลักษณ์ของรัฐสภา ทั้งนี้เราอยู่กันในระบอบประชาธิปไตยไม่ยอมกติกา

ทำให้นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกประท้วงคำพูดดังกล่าวพร้อมยืนยันว่า เราไม่เห็นด้วยที่ตั้งใจวอล์กเอาต์เพื่อบอยคอต ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยและฝั่งที่ลงมติให้เลื่อนญัตติ แม้ว่าจะแพ้ไป ยังอยู่ในห้องประชุม กรณีที่ น.ส.นันทนา ระบุนั้นทำให้เสียหาย
ทั้งนี้การประท้วงดังกล่าวยังดำเนินต่อไป จน นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. เสนอญัตติให้นับองค์ประชุม เนื่องจากพบว่ามีสมาชิกรัฐสภาบางส่วนวอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุม ทั้งนี้นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เสนอญัตติให้นับองค์ประชุมด้วยการขานชื่อ ขณะที่นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอญัตติให้นับองค์ประชุมด้วยการเสียบบัตร เพราะทำให้เสียเวลาหากจะใช้วิธีการขานชื่อ จนทำให้นายปกรณ์วุฒิ ได้ถอนญัตติออกไป เพราะไม่อยากให้รัฐสภาต้องเสียเวลา ทำให้ต้องใช้การแสดงตนผ่านการกดบัตรแสดงตน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมรัฐสภายังคงเต็มไปด้วยความวุ่นวาย มีการประท้วงต่อการทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาที่ไม่ยอมแสดงตนเป็นองค์ประชุม และมีการระบุว่าไม่ให้สมาชิกเข้าร่วมการประชุม โดยนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน หารือว่า พบว่ามีการปิดประตูทางเข้า-ออก ของห้องประชุมรัฐสภาบางประตู เพื่อไม่ให้มีการเข้า-ออก ขอให้ตรวจเช็กเรื่องดังกล่าว และขอให้รอสมาชิกมาแสดงตน เนื่องจากสมัยรัฐสภาที่แล้ว มีการรอองค์ประชุมนานถึง 53 นาที
ทั้งนี้ นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยต่อการเสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นหนทางที่จะแก้ไขได้ หากญัตติค้างอยู่ จะยังทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำได้ต่อไป แต่เมื่อมติไม่ชนะ หากจะเดินหน้าก็ตกอีก ดังนั้นจึงต้องการให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญค้างในสภา และตั้งหลักสู้ต่อไป จึงออกมาในแนวที่เห็น การเป็นองค์ประชุมหรือเลื่อนหรือไม่ เป็นวิธีการให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ ไม่ใช่ได้แก้เพื่อบอกประชาชนว่าได้ทำแล้ว

“เมื่อจะแก้ไขได้จริงๆ สถานการณ์วันนี้ บอกตรงๆ ว่าหากลงมติคิดว่าตก หากเดินไปสู่การลงมติจะตก และนำกลับมาสู่การแก้ไขไม่ได้ง่ายๆ ไม่ใช่วัตถุประสงค์ของพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อทางตรงมันติด จึงขอใช้วิธีทางอ้อม ด้วยการส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ญัตติแก้รัฐธรรมนูญไม่ตกไป หากศาลบอกว่าทำได้ จะได้เดินต่อเพื่อให้เห็นหนทางที่ทำให้สำเร็จ” นายสุทิน อภิปราย
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีการเรียกร้องให้ สส. แสดงตนเป็นองค์ประชุม และมีการประท้วงอย่างต่อเนื่อง ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ ประธานในที่ประชุม ได้กล่าวว่า จะไม่ให้สิทธิประท้วงใด ๆ และเดินหน้าการแสดงตนเป็นองค์ประชุม ก่อนจะประกาศผลการแสดงตนว่ามีผู้เข้าร่วมประชุม 204 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม ต้องปิดการประชุม ทำต่อไปไม่ได้ เลิกการประชุม และขอนัดประชุมใหม่ในวันที่ 14 ก.พ. นี้ เวลา 09.30 น.