เรชีล คัวร์ คุณแม่ยังสาว และพนักงานของบริษัทแอร์เอเชียสาขาประเทศมาเลเซีย เล่าประสบการณ์เดินทางไปและกลับจากที่ทำงานของเธอ ที่แตกต่างไปจากพนักงานออฟฟิศทั่วไป

บ้านของคัวร์อยู่ที่ปีนัง ขณะที่สำนักงานของบริษัทของเธออยู่ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ แทนที่คัวร์จะเช่าที่พักในเมืองเดียวกับที่ตั้งบริษัท เธอตัดสินใจเลือกเดินทางแบบไป-กลับ ด้วยการโดยสารเครื่องบินเป็นระยะเวลา 40 นาที ทุกวันทำงาน ซึ่งเธอบอกว่าคุ้มค่าทั้งในแง่ของค่าใช้จ่ายและการรักษาสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตครอบครัว

เรชีล คัวร์

“พอจัดการแบบนี้ ฉันสามารถกลับบ้านได้ทุกวัน ได้เจอลูกๆ ตอนค่ำ และช่วยทำการบ้านที่ยังค้างคาอยู่ได้” คัวร์เผยข้อดีของตัวเลือกการเดินทางของเธอ “ฉันมีลูก 2 คน กำลังโตทั้งคู่ คนโตอายุ 12 ขวบ และลูกสาวอายุ 11 ขวบ พอพวกเขากำลังโตแบบนี้ ฉันรู้สึกว่าพวกเขาอยากให้แม่อยู่ใกล้ๆ บ่อยขึ้น” 

ในวันทำงาน คัวร์จะตื่นนอนประมาณ 04.00-04.15 น. จากนั้นก็อาบน้ำ แต่งตัว และออกจากบ้านตอน 05.00 น. เพื่อขึ้นเครื่องบิน ซึ่งจะใช้เวลาเดินทาง 30-40 นาที ซึ่งเธอจะต้องขึ้นเครื่องเวลาประมาณ 05.55 น. เธอจะไปถึงที่ทำงานเวลา 07.45 น. ทุกวัน

คัวร์ต้องตื่นตีสี่ทุกวัน เพื่อให้ทันขึ้นเครื่องบินไปทำงาน

แม้ว่าคัวร์จะทำงานให้แอร์เอเชีย แต่เธอก็ไม่ได้สิทธิพิเศษใดๆ ในฐานะพนักงาน และเธอต้องจ่ายเงินค่าตั๋วโดยสารเอง

อย่างไรก็ตาม คัวร์อ้างว่าค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยเครื่องบินนั้น ถูกกว่าค่าใช้จ่ายในการเช่าอพาร์ตเมนต์ในกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเธอบอกว่าจะต้องจ่ายเงินไม่ต่ำกว่า 300 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10,158 บาท) ต่อเดือน อีกทั้งเธอเองก็มีซื้อบ้านไว้แล้วที่ปีนัง และกำลังอยู่ระหว่างผ่อนส่งค่างวดเดือนละ 223 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7,547 บาท) 

คัวร์ไม่ใช่คนแรกที่เลือกเดินทางไป-กลับ จากบ้านและที่ทำงานด้วยเครื่องบิน เมื่อปีที่แล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งเปิดเผยว่า สามีของเธอขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางจากมินนีแอโพลิสไปแมนฮัตตัน เพื่อทำงานทุกวัน 

นอกจากนี้ ยังมีช่างทำผมในนิวยอร์กซิตี เคยให้สัมภาษณ์ว่ากับเดอะโพสต์ ว่า เธอต้องเดินทางด้วยเครื่องบินจากเมืองชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา เพื่อไปทำงานที่นครนิวยอร์กทุกๆ สองสัปดาห์ เพราะค่าเดินทางนั้น ถูกกว่าการเช่าห้องพักที่นิวยอร์ก

ที่มาและเครดิตภาพ : nypost.com