เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่โรงแรมอัศวิน แกรนด์คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งศึกษาทบทวนกฎหมายห้ามขายเหล้าวันพระใหญ่ และทบทวนช่วงเวลาห้ามขาย 14.00-17.00 น. หวังกระตุ้นศรษฐกิจตามข้อเรียกร้องของภาคธุรกิจ ว่า กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลกฎระเบียบต่างๆ อย่างกรณี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ขอให้มีการเปิดห้องสูบบุหรี่ภายในอาคารสนามบินสุวรรณภูมิ ตนจึงตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาข้อมูลต่างๆ ร่วมกัน ก็เช่นเดียวกันกับเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเมื่อนายกฯ สั่งการมาก็ต้องนำมาศึกษาอย่างรอบด้าน ทั้งผลกระทบด้านสุขภาพ ความปลอดภัยที่ต้องสอดคล้องกับเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวด้วย ก็จะมีคณะกรรมการดูแลเรื่องนี้
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในอดีตกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมการดื่ม ซึ่งออกมาหลายปี ก็จะมีข้อกำหนดต่างๆ เช่น สถานบริการต้องอยูห่างไกลจากวัด จากโรงเรียนตามขอบเขตกำหนด แต่วันนี้สถานการณ์เรื่องพื้นที่ก็เปลี่ยนแปลง ประกอบกับมีเรื่องการท่องเที่ยวเข้ามา จึงต้องพิจารณาให้รอบด้าน อย่างของไทย แม้จะเป็นพื้นที่การเกษตร แต่ประเทศอื่นๆ ก็มีเช่นกัน ดังนั้น ก็จะกระทบการส่งออกอยู่บ้าง แต่เรื่องการท่องเที่ยวเป็นอีกเรื่องสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และนักท่องเที่ยวก็เข้ามาเยอะ สมัยตนเป็น รมว.การท่องเที่ยวฯ มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 2-3 ล้านคน แต่วันนี้ เราต้องการนักท่องเที่ยว 30-35 ล้านคน ดังนั้น หากเรายังใช้หลักเกณฑ์เดิม จะยึดโยงการท่องเที่ยวได้มากน้อยแค่ไหน ตรงนี้ก็ต้องนำมาคิดพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าเราต้องทบทวนเรื่องนี้ทั้งการห้ามขายเหล้าในวันพระใหญ่ และทบทวนช่วงเวลาห้ามขาย 14.00-17.00 น. ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ว่าทบทวน หรือไม่ทบทวน แต่ต้องมาศึกษาดูกันอย่างถ่องแท้ หาเหตุผลต่างๆ ว่า ควรเป็นอย่างไร เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็ต้องมาคุยกันได้ เจตนารมณ์คือ เราต้องการเรื่องการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของประเทศ อย่างก่อนหน้านี้มีข้อเสนอขอเปิดขายในรถไฟบางช่วง แต่เมื่อมีข้อเห็นต่างก็รับฟัง ต้องดูเหตุผลทั้งหมด ไม่ใช่ว่าจะทำเลยหรือไม่
เมื่อถามว่าต้องมอบหมายให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ หารือเรื่องนี้เมื่อไหร่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องทำโดยเร็ว เพราะทุกวันนี้กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้หยุดงาน วันหยุดยังทำงาน มีเรื่องเยอะแยะ สิ่งสำคัญต้องทำอย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งคน งบประมาณ ฯลฯ ซึ่งกรณีรวมถึงเรื่องเวลาด้วย 14.00-17.00 น. ก็ต้องเอาข้อมูลมาพิจารณาทั้งหมด ดูว่าอะไรเสียหาย อะไรไม่ดีอย่างไร ดูให้หมด
“ผมรับฟังความคิดเห็นทั้งหมด ไม่ได้มีธงว่า จะทำหรือไม่ทำอะไร บางทีตัวเศรษฐกิจของเศรษฐศาสตร์ไปได้แต่ประชาชนไม่เอา เราก็ไม่เอา แต่บางครั้งในวันพระใหญ่ พูดคุยกันว่าดื่มไม่ได้ บางคนก็บอกชาวบ้านก็มีดื่มอยู่ หรือนักท่องเที่ยวเข้ามาก็ไม่รู้ว่าเป็นวันพระ เพราะคนละศาสนา ก็ถกเถียงกัน ผมรับฟังหมด ก็เอาข้อมูลมาชนกัน อะไรเสียหาย ดีไม่ดี สถานที่ขายแอลกอฮอล์ มาดูว่า บางครั้งที่ดินแพงมาก เขาไม่สามารถรับท่องเที่ยวได้ เขาก็ลงทุนไม่ได้ หรือลงทุนได้ที่ดินนี้มันติดกับสถานศึกษา ในอดีตต้องห่าง 500 เมตร ก็ต้องเอามาคุยกัน ว่าต้องใช้แบบนี้หรือเปล่า” นายสมศักดิ์ กล่าว.