นายอิทธิ  ศิริลัทธยากร  รมช.เกษตรและสหกรณ์  เปิดเผยหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชาวประมงในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี ว่า  กรมประมงได้ผลักดันให้มีการออกประกาศ 2 ฉบับ เรื่องการออกหนังสือคนประจำเรือ (Seabook) ให้สามารถขอได้ตลอดทั้งปี จากเดิมจะเปิดให้ทำปีละ 2 ครั้ง  เพื่อเป็นแนวทางในการช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่ทำงานบนเรือประมง ช่วยให้ผู้ประกอบการประมงสามารถทำประมงได้อย่างไม่ติดขัด และยังเป็นการช่วยป้องกันการใช้แรงงานผิดกฎหมาย โดยการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้ถูกต้องทำให้แรงงานต่างด้าวได้รับการคุ้มครองและสวัสดิการตามที่กฎหมายกำหนด

ขณะนี้ได้มีการชี้แจงประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของเรือได้ทราบในขั้นตอนการดำเนินการตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ฯ ในช่องทางต่าง ๆ แล้ว และในกรณีของแรงงานที่มีหนังสือคนประจำเรือ ตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางด้านแรงงาน ที่จะหมดอายุในวันที่ 13 ก.พ. คณะรัฐมนตรีได้มีการขยายอายุอัตโนมัติ 6 เดือน ทั่วประเทศ ตามประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะสำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ 13 ก.พ.68 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ก.ย.67 (ฉบับที่ 3)

 ทั้งนี้ จังหวัดชลบุรี มีเรือประมงพื้นบ้าน จำนวน 2,948 ลำ เรือประมงพาณิชย์ จำนวน 321 ลำ ท่าเทียบเรือประมงสำหรับขนถ่ายสัตว์น้ำ จำนวน 23 แห่ง อีกทั้งยังมีเรือประมงพาณิชย์จากจังหวัดอื่น ๆ มาขนถ่ายสัตว์น้ำผ่านท่าเทียบเรือ ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ และขนส่งไปจำหน่ายตามแพปลาต่าง ๆ โดยมีปริมาณสัตว์น้ำจากเรือประมงพาณิชย์ จำนวน 67,945 ตัน มูลค่า 51,007,400 บาท ปริมาณจับสัตว์น้ำจากการทำประมงพื้นบ้านจำนวน 11,651 ตัน มูลค่า 74,024,532 บาท สัตว์น้ำเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ปูม้า กุ้งกุลาดำ กุ้งแชบ๊วย หมึกหอม หมึกกล้วย ปลาอินทรีย์ และปลาทรายแดง เป็นต้น