วานนี้ (11 ก.พ. 2568) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานกรณีของ เอ็ดมันด์ เดวิส ผู้ต้องสงสัยจากรัฐมอนแทนาที่พัวพันกับกรณีของ อลิซ นาวาร์โร เด็กสาวที่หายตัวไปนานถึง 4 ปี ก่อนจะปรากฏตัวที่สถานีตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือในปี 2566
นอกจากคดีของนาวาร์โรแล้ว เดวิสยังรับสารภาพผิดตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้วในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็ก หลังจากเจ้าหน้าที่พบภาพถ่ายที่ไม่เหมาะสมในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเขาระหว่างตรวจค้นอพาร์ตเมนต์ที่เขาอยู่ร่วมกับนาวาร์โรในเมืองฮาฟร์ รัฐมอนแทนา
เขาถูกตัดสินให้รับโทษจำคุก 100 ปีในเรือนจำรัฐมอนแทนา พร้อมระยะเวลาคุมประพฤติ 50 ปี กระทรวงยุติธรรมของรัฐกล่าวในข่าวเผยแพร่เมื่อวันอังคารที่ 11 ก.พ. 2568 ว่า เดวิสจะไม่มีสิทธิได้รับการพักโทษภายในเวลา 25 ปี
ข้อมูลจากบันทึกของศาลระบุว่า เดวิสเป็นแฟนหนุ่มของนาวาร์โร อัยการกล่าวว่าเดวิสพยายามทิ้งโทรศัพท์มือถือของเขาโดยโยนลงถังขยะและวางสิ่งของทับไว้ด้านบน
กระทรวงยุติธรรมของรัฐแถลงว่า เมื่อตรวจสอบภาพและเนื้อหาที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือดังกล่าว พบว่าบุคคลในภาพมีอายุต่ำกว่า 13 ปี โดยมีรูปภาพเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ 2 รูป รวมถึงรูปภาพของทารกและเด็กเล็ก รวมทั้งเนื้อหาที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์หรือภาพเคลื่อนไหวอื่นๆ ที่แสดงให้เห็นว่า เด็กๆ เหล่านั้นกำลังโดนล่วงละเมิดทางเพศ
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สอบสวนกล่าวว่า พวกเขาพบรูปภาพมากกว่า 80 รูปในโทรศัพท์มือถือของเดวิส
เจ้าหน้าที่สืบสวนได้ตรวจค้นที่พักของเดวิสในเดือนกรกฎาคม 2566 เพื่อค้นหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีของนาวาร์โร หลังจากที่เด็กสาวเดินเข้าไปในสถานีตำรวจฮาฟร์ บอกว่าเธอคือเด็กหญิงที่อยู่ในรายชื่อคนหาย และขอความช่วยเหลือเพื่อลบชื่อเธอออกจากรายชื่อดังกล่าว
เจ้าหน้าที่สืบสวนกล่าวว่า นาวาร์โรอายุเพียง 14 ปีตอนที่เธอหายตัวไปจากบ้านของแม่ของเธอในเมืองเกล็นเดล รัฐแอริโซนา เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2562 อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดเผยว่า นาวาร์โรไปอยู่ที่มอนแทนาได้อย่างไร อีกทั้งในเวลาต่อมา เดวิสก็ไม่ได้โดนตั้งข้อหาในคดีการหายตัวไปของเธอ แต่เขาต้องรับโทษจากการมีภาพอนาจารของเยาวชนในครอบครองแทน
เจสสิกา นูเนซ แม่ของเดวิส ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวเอ็นบีซี นิวส์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ตอนนี้นาวาร์โรอยู่กับเธอ แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด นอกจากนี้ เธอยังกล่าวอีกว่าเธอพอใจกับการตัดสินโทษของเดวิสในครั้งนี้
“ฉันมีความสุขมากที่เขาอยู่ในคุก และเขาจะไม่ก่ออันตรายใดๆ ได้อีกต่อไป” เธอกล่าวในแถลงการณ์ “ฉันไม่สามารถกอบกู้ช่วงเวลาหลายปีที่ไม่ได้อยู่กับเธอคืนมา และฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความเจ็บปวดในใจได้ แต่ฉันซาบซึ้งที่ลูกสาวของฉันยังมีชีวิตอยู่ และเราต่างก็เยียวยากันในฐานะที่เป็นครอบครัวเดียวกัน”
ที่มาและเครดิตภาพ : nbcnews.com
