สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ต้อนรับสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน ที่ทำเนียบขาว เมื่อวันอังคาร โดยประเด็นของการหารือที่สำคัญ เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในฉนวนกาซา
ทั้งนี้ ทรัมป์ยืนยันกับสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งจอร์แดน ว่าจะเดินหน้าแผนการให้สหรัฐ “เป็นเจ้าของ” ฉนวนกาซา และดินแดนแห่งนี้ “ต้องอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐบาลวอชิงตัน” พร้อมทั้งกล่าวว่า สหรัฐจะครอบครองฉนวนกาซา “โดยไม่ผ่านการซื้อ” และจะพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว “ให้เจริญรุ่งเรือง” แต่ยังคงไม่ได้กล่าวถึงอนาคตของชาวปาเลสไตน์มากกว่า 2 ล้านคน
"The relationship with Jordan has been VERY STRONG." –President Donald J. Trump ???????????????? pic.twitter.com/JQ7buSWmjz
— President Donald J. Trump (@POTUS) February 11, 2025
อย่างไรก็ตาม สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2 ตรัสว่า จอร์แดนมีจุดยืนที่หนักแน่นและชัดเจน ว่าคัคค้านการบังคับย้ายถิ่นฐานของชาวปาเลสไตน์ ไม่ว่าจะในฉนวนกาซาหรือเขตเวสต์แบงก์ และทรงยืนยันว่า ประชาคมอาหรับ รวมถึงอียิปต์ มีจุดยืนแบบเดียวกันในเรื่องนี้
ขณะเดียวกัน พระองค์ตรัสด้วยว่า การฟื้นฟูและพัฒนาฉนวนกาซา ตลอดจนการแก้ไขวิกฤติด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ โดยไม่ต้องขับไล่ประชาชนให้ออกไปอยู่ที่อื่น ควรเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญสูงสุด
ปัจจุบัน มากกว่าครึ่งของประชากรจอร์แดน ซึ่งมีอยู่ราว 11 ล้านคน มีเชื้อสายปาเลสไตน์ และนับตั้งแต่มีการสถาปนารัฐอิสราเอล เมื่อปี 2491 ชาวปาเลสไตน์จำนวนมากเดินทางไปลี้ภัยในจอร์แดน.
เครดิตภาพ : AFP