เมื่อเย็นวันที่ 11 ก.พ.68 พล.ต.ท.ศักย์สิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. สั่งการให้กวาดล้างปัญหาคนต่างด้าวประกอบธุรกิจผิดกฎหมายแย่งอาชีพ คนไทย โดย พ.ต.ท.วินิจ บุญชิต สว.ตำรวจท่องเที่ยว 5 ได้นำกำลัง บูรณาการ ปกครองเกาะพะงัน และ ตำรวจ ตม. พะงัน เข้าตรวจสอบ ที่โรงแรม แห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 1 ต.บ้านใต้ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี สามารถควบคุมผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายอิวาน อายุ 44 ปี สัญชาติ เซอร์เบียน เจ้าของโรงแรม เปิดร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า นายภากร อายุ 30 ปี สัญชาติไทย ผจก.โรงแรม อายุ 30 ปี พร้อมด้วยของกลาง บุหรี่ยี่ห้อต่างๆ และ บุหรี่ไฟฟ้า จำนวนมาก

เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรและโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร, ร่วมกันขายหรือมีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้าที่เป็นสินค้า (ยาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรต) ที่มิได้เสียภาษีหรือเสียภาษีไม่ครบถ้วน, ร่วมกันขายสินค้า (บุหรี่ไฟฟ้า) โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ที่ 24/2567 เรื่อง ห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า

ส่วนอีกราย น.ส.แอชลีย์ อายุ 23 ปี สัญชาติ อเมริกัน เป็นพนักงานแคสเชีย แจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” ก่อนนำตัวทั้ง 3 คนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สืบเนื่องจาก ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน รับแจ้งจากพลเมืองดี โรงแรมดังกล่าวลักลอบจำหน่ายบุหรี่ที่ไม่ผ่านพิธีศุลกากร และตั้งอยู่ห่างจากสถานศึกษาเพียง 50 เมตร จึงไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงโรงแรมพบเห็นชาวต่างชาติเข้า-ออกจำนวนมาก จึงเข้าตรวจสอบบริเวณบาร์ของโรงแรมดังกล่าว พบป้ายแสดงสินค้าประเภท บุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า พร้อมราคา อีกทั้งยังพบบุหรี่หลากหลายยี่ห้อ ซึ่งเป็นยี่ห้อที่ไม่มีการจัดจำหน่ายในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ จึงได้สอบถาม โดยมีนายภากร มาแสดงตัวเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ และนายอิวาน แสดงตัวเป็นผู้จัดการโรงแรมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม

สอบสวนเบื้องต้น นายภากร และนายอิวาน ให้การยอมรับว่า บุหรี่ดังกล่าวได้สั่งมาจากเพื่อนชาวบังแกเรีย ในราคา 20,000 บาท เพื่อไว้ขายให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยให้นายภากร เป็นผู้จำหน่ายให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ โดยขายบุหรี่ไฟฟ้าในราคา 600 บาท และบุหรี่ขายในราคาซองละ 100 บาท ซึ่งรายได้จากการขายทั้งหมดจะแบ่งกันคนละครึ่ง

ส่วน น.ส.แอชลีย์ ให้การยอมรับว่า ไม่มีใบอนุญาตทำงานจริง เนื่องจากถือวีซ่านักท่องเที่ยว โดยนายอิวาน จ้างมาทำงานแผนกต้อนรับของโรงแรม เพื่อแลกกับที่พักอาศัยและอาหารฟรี และยอมรับว่าตนทำงานในตำแหน่งพนักงานต้อนรับให้กับโรงแรมจริง

ทั้งนี้ทางท่าน พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท.ได้กำชับหัวหน้าสถานีตำรวจท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวนำร่องและพื้นที่ไกล้เคียงเร่งให้กวาดล้างการกระทำผิดของกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาแฝงตัวก่ออาชญากรรมทุกรูปแบบ ให้ดำเนินคดีเด็ดขาดไม่เว้นทุกกรณี เพื่อสร้างภาพลักษณการท่องเที่ยวสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นนี้ อย่างจิงจังอย่างต่อเนื่องต่อไป