รายงานข่าวจาก บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากได้นำนวัตกรรม “ทรู ไซเบอร์เซฟ” ที่เป็นระบบป้องกันภัยไซเบอร์อัจฉริยะด้วย เอไอ ทั้งจากลิงก์แปลกปลอม เอสเอ็มเอส หลอกลวง มาช่วยปกป้องลูกค้าทรู ดีแทค รวมทั้งลูกค้าเน็ตบ้านทรูออนไลน์ ทุกราย ให้ห่างไกลเหล่ามิจฉาชีพ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องลงทะเบียน และไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติมใดๆ โดยเริ่มให้บริการในวันที่ 3 ธ.ค.67 – 31 ม.ค.68 ระยะ 2 เดือนที่ผ่านมา สามารถปกป้องลูกค้าจากการคลิกลิงก์แปลกปลอมได้ถึง 370 ล้านครั้ง หรือเฉลี่ย 7.5 ล้านครั้งต่อวัน คิดเป็น 98.7% ที่ระบบสามารถปกป้องได้
“ทรู ไซเบอร์เซฟ ถูกพัฒนาด้วยการนำเทคโนโลยี เอไอ ขั้นสูงมาใช้เพื่อยกระดับการปกป้องและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้บริการโลกออนไลน์ โดยมีหลักการทำงานง่ายๆ ในการปกป้องลูกค้า คือ เมื่อลูกค้าเผลอคลิกลิงก์จากข้อความ เอสเอ็มเอส ที่ได้รับ หรือเว็บไซต์แปลกปลอม ระบบของ ทรู ไซเบอร์เซฟ จะบล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายให้ทันที หากเป็นลิงก์ตามรายชื่อ แบล็คลิสต์ จากตำรวจไซเบอร์และภาครัฐ จะใช้ระบบ เอไอ ขั้นสูงในการตรวจสอบ หากลิงก์ที่ลูกค้าคลิกอยู่ในลิสต์สุ่มเสี่ยง 124,000 ลิงก์ ก็จะทำการแจ้งเตือนว่า โปรดระวัง อาจเป็นเว็บไซต์อันตราย ทันที ทั้งนี้ หากลูกค้ายังยืนยันจะเข้าสู่เว็บไซต์ จะต้องรอ 60 วินาที เพื่อตัดสินใจ และคลิกยืนยันเข้าเว็บไซต์ดังกล่าวอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในเดือน มี.ค.นี้ ทางทรูและดีแทค และ ทรูออนไลน์ จะพัฒนาบริการระบบแจ้งเตือนสายเรียกเข้า หรือ คอล เอไอ ฟิลเตอร์ และ เอสเอ็มเอส เอไอ ฟิลเตอร์ อย่างเต็มรูปแบบ ที่ ทรู และ หน่วยงานภาครัฐและพันธมิตรเอกชนร่วมกันพัฒนาขึ้น เพื่อช่วยปกป้องลูกค้าให้ห่างไกลมิจฉาชีพอย่างรอบด้านมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ในปัจจุบันประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ประสบปัญหาการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ตอย่างรุนแรง จากรายงาน เอเชีย สแกม ปี 67 โดย โกบอล แอนตี้ สแกม อัลไลแอนซ์ พบว่าคนไทยสูญเสียจากการโดนหลอกออนไลน์ติดอันดับ 4 ของโลก รองจากประเทศเคนยา เวียดนาม และบราซิล อีกทั้งประสบปัญหา เอสเอ็มเอส หลอกลวงมากที่สุดในเอเชียมากกว่า 20 ครั้ง/คน/ ปี และภัยไซเบอร์นี้ทำให้เกิดมูลค่าความเสียหายสูงกว่า 80 ล้านบาทต่อวัน